หลักสูตรอบรม 360 องศา Storytelling

Effective Storytelling 360 Degree

อบรม Storytelling เทคนิคการนำเสนอ

“ปลดล็อคทุกการนำเสนอ สร้างตัวตนให้เหนือชั้น ด้วยเทคนิค Storytelling ที่มืออาชีพนำมาใช้”

วัตถุประสงค์ของการอบรม หลักสูตร Storytelling

  1. ทำให้ผู้อบรมเห็นประโยชน์ในการนำเสนอตามหลักของ Storytelling
  2. ทำให้เห็นความแตกต่างของการนำเสนอแบบธรรมดาและการนำเสนอแบบ Storytelling
  3. มีเทคนิคที่สำคัญในการพัฒนาเรื่องที่จะเล่า ทำให้คนฟังสนใจและอยากติดตาม
  4. เข้าใจเส้นทางการนำเสนอด้วยการเล่าเรื่อง ทำให้มีแนววทางในการพัฒนาความสำเร็จให้ตนเอง
  5. มีเทคนิคในการรวบรวมประเด็นสำคัญเพื่อสรุปสาระสำคัญที่จะนำมาใช้ในการเล่าเรื่องเพื่อตอบโจทย์คนฟัง
  6. สร้างเครื่องมือที่ต้องใช้เป็นกไกการขับเรื่องราว เพื่อความเหมาะสมในการนำเสนอสร้างความประทับใจให้คนฟัง
  7. เข้าใจการพัฒนาสื่อการนำเสนอเพื่อตอบรับการทำงานของสมอง ทำให้คนฟังเข้าใจง่ายขึ้น
  8. ประยุกต์มาใช้ในการทำงานจริงได้อย่างมีประสิทธิภาพ

หัวใจสำคัญของการเล่าเรื่อง มีหลักวิธีง่าย ๆ ที่ต้องทำ คือ การเข้าถึงจิตวิญญาณของเรื่องราวให้ได้และนำมาเรียบเรียงให้สอดคล้องกับเป้าหมายของคนฟัง วิธีการเช่านี้ เป็น เทคนิค Storytelling เพื่อกระตุ๊กต่อมการรับรู้ของคนฟัง ตามแนวคิดที่ว่าคนฟังต้องการที่จะรับฟังสิ่งที่เป็นเรื่องราวที่น่าสนใจเท่านั้น  ในปัจจุบันนั้นการเล่าเรื่องเป็นเครื่องมือการนำเสนอที่ทันสมัยมากที่สุด และมีประสิทธิผลที่มากที่สุด ด้วยเหตุผลหลัก ๆ คือ การมี Storytelling จะทำให้ผู้ฟังรู้สึกสนุก ท้าทาย ตื่นเต้น ไปกับเนื้อหา ผลที่ตามมาคือการที่ผู้ฟังติดตามและให้ความสนใจในการฟังเป็นอย่างมาก การนำเสนอด้วย Storytelling เป็นเครื่องมือสื่อสารที่จำเป็น แต่มีผู้นำเสนอหลายท่านยังมีความเข้าใจผิด ทำให้การนำเสนอไม่น่าสนใจ เพราะเข้าใจว่า เทคนิคการนำเสนอที่ดีคือการมีเนื้อหาที่ดีเท่านั้น ก็จะทำให้การนำเสนอดีได้ หรือทำให้คนฟังมีความสนใจ และเข้าใจในสิ่งที่นำเสนอ หรือบางคนอาจจะมองว่า การนำเสนอที่ดีนั้นขึ้นอยู่กับรูปแบบเทคนิควิธีหรือลีลาการนำเสนอที่แตกต่างเท่านั้น ที่จะทำให้ตนเองได้รับการยอมรับหรือโดดเด่นในเวทีการนำเสนอ ซึ่งแท้จริงการนำเสนอด้วยการเล่าเรื่อง Storytelling ที่ดีเป็นการผสมผสานระหว่างเนื้อหาและวิธีการ เทคนิคสตอรี่เทลลิ่ง ที่ทำให้มีความกลมกลืนเหมาะสมกับผู้ฟัง ผ่านกระบวนการของการเล่าเรื่องที่มีการเตรียมการเป็นอย่างดี จะทำให้การนำเสนอ Storytelling ในครั้งนั้น ๆ มีความโดดเด่นน่าสนใจ และตรงใจผู้ฟังมากที่สุด

หลักสูตรอบรม Storytelling 360 องศา เป็นหลักสูตรที่ วิทยากรจบเรื่อง Storytelling มาจากสถาบัน เนื้อหาที่มีการประยุกต์มาจากการเป็นพี่เลี้ยงและการโค้ชชิ่ง (Mentoring and Coaching) ที่ได้รับเป็นสากลว่าเป็นแนวการสร้างให้คนสามารถเล่าเรื่องได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด ซึ่งจะทำให้ผู้เรียนนั้นสามารถที่จะค้นคว้าสรุปประเด็นเพื่อการเล่าเรื่องและวางแนวในการเล่าเรื่องได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะให้ผู้ฟังได้รับรู้ เข้าใจ ในเนื้อหาที่ต้องการสื่อสารออกไป  ซึ่งผู้นำเสนอจะสามารถสร้างผลงานอย่างเป็นที่น่าภาค ภูมิใจอีกทั้งผู้เรียนจะได้การพัฒนาบุคลิกภาพให้มีความโดดเด่นเหนือคู่แข่งขัน จะทำให้ตนเองนั้นได้เปรียบในการนำเสนอในครั้งนั้น ซึ่งผู้เข้าอบรมจะสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้จริง เพื่อการพัฒนาศักยภาพของตนเองและขององค์กรต่อไป

หลักสูตรอบรม 360 องศา Storytelling

Effective Storytelling 360 Degree

หลักการและเหตุผล หลักสูตร Storytelling for Success

การเล่าเรื่องหรือ Storytelling คือหัวใจของความสำเร็จทางธุรกิจในยุคปัจจุบัน ไม่ว่าพนักงานคนนั้นจะทำงานในตำแหน่งใด วิชาชีพอะไร Storytelling เป็นเครื่องมือที่สำคัญมากที่สุด เพราะถ้ากำลังทำงานในฝ่ายขาย พนักงานขายมักคิดเสมอว่า ทำไมปิดการขายไม่ได้ ทั้ง ๆ ที่สินค้ามีคุณภาพดี หรือถ้าพนักงานหลายคนมักคิดว่าตนเองทำงานได้ดี มีผลงานมากมาย แต่ทำไมถึงผู้บริหารไม่เห็นความสำคัญ ไม่โปรโมทให้ได้รับตำแหน่งสูงขึ้น เงินเดือนที่เพิ่มมากขึ้น จึงขอให้ทุกคนได้เข้าใจว่า การที่สินค้าดีหรือทำงานมีผลงานมากมายก็ไม่มีประโยชน์อะไร ถ้าลูกค้าหรือผู้บริหารมองไม่เห็น และลูกค้าหรือผู้บริหารก็มีงานเยอะมากมายไม่มีเวลาพอที่จะมาดูในสิ่งที่พนักงานคนนั้นกำลังทำ จึงเป็นหน้าที่ของพนักงานทั้ง พนักงานขายหรือพนักงานที่มีผลงานดี จะต้องนำเสนอสิ่งที่ตนเองมีดี มีความสามารถ หรือ ความคืบหน้าของงาน ให้กับคนอื่นได้รับรู้ และเมื่อไรก็ตามที่พนักงานคนนั้นต้องลุกขึ้นยืนเพื่อนำเสนอ แล้วยังมีอาการเช่นนี้

  • เมื่อต้องขึ้นนำเสนอ Storytelling รู้สึกกังวลใจมากเกินปจนเกิดอาการ ประหม่า ตกใจ มือไม้สั่น เหงื่อออกมากผิดปกติ ทำให้ไม่อยากนำเสนอด้วยสตอรี่เทลลิ่ง ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าสำคัญ
  • จับต้น ชนปลายไม่ถูก ไม่รู้จะเริ่มอย่างไร ลงท้ายอย่างไร ทำให้นำเสนอ Storytelling แล้วไม่มีคนฟังหรือฟังด้วยความเบื่อหน่าย
  • ไม่มีแรงบันดาลใจที่มากพอในการนำเสนอด้วยการเล่าเรื่อง รู้สึกเบื่อหน่ายท้อแท้ทุกครั้งที่ต้องนำเสนอด้วย Storytelling
  • ไม่สามารถแยกอารมณ์กับเหตุผลในการนำเสนอแบบ Storytelling ทำให้ในระหว่างการนำเสนอ มีความคิดขัดแย้งกันเอง ทำให้เกิดความสับสนในการนำเสนอStorytelling
  • อยากนำเสนอด้วย Storytelling ได้ มีเรื่องราวที่ดี แต่ไม่มีเทคนิคสตอรี่เทลลิ่ง ถึงมีแต่ใช้ไม่เป็น ทำให้นำเสนอไม่น่าสนใจ
  • อยู่ในวังวนของความสับสน พูดไป งง ไป เรียกว่าอยู่ในวังวนของการหลอกตนเองว่า Storytelling ไม่จำเป็น แต่ก็บ่นทุกครั้งที่ผลลัพธ์ของการ Storytelling ออกมาไม่น่าพอใจ
  • หลอกตนเอง ว่าต้นเหตุที่ผู้ฟังไม่สนใจ มาจากผู้ฟังไม่สนใจ ไม่ใช่มาจากปัญหาการนำเสนอที่ไม่ดีพอ
  • อยากเพิ่มยอดขาย อยากมีความก้าวหน้า ไม่รู้จะทำอย่างไร ให้ตนเองโดดเด่น
  • ความท้าทายมากมาย ที่เมื่อต้องขึ้นนำเสนอแล้ว ทำให้คนฟัง ไม่สนใจ หายไป ไม่กลับมาอีก

 

เป็นความจำเป็นของผู้บริหาร ผู้จัดการ หรือองค์กร ที่ต้องการประสบความสำเร็จ การนำเสนอ ด้วยการใช้เครื่องมือตามหลักสูตรอบรม Storytelling เป็นหัวใจของความสำเร็จที่แท้จริง เพราะ Storytelling เป็นเครื่องมือที่จะใช้ในการสื่อสารกับคนทุกระดับ ทุกเพศ ทุกวัย ในทางปฏิบัตินั้น พนักงาน ผู้บริหาร หรือ ผู้จัดการทุกคน มักคิดว่าตนเองมีเรื่องเล่า ซึ่งการมีเรื่องเล่านั้นยังไม่สำคัญเท่ากับการเล่าเรื่องให้เป็น Storytelling ได้ การเล่าเรื่องนั้นเป็นการทำงานที่สอดคล้องกับการทำงานของสมอง ที่เรียกว่า Brain-Based Learning: BBL การรับรู้ของสมองจะรับรู้ทุกอย่างเป็นเรื่องเป็นราว มีที่มีที่ไป และเมื่อสมองมีพลังในการรับรู้ที่ดีพอ จะทำให้รู้สึกสนใจต่อเรื่องราวที่เล่าไม่ว่าจะเป็น เรื่องราวเกี่ยวกับความคืบหน้าของงาน เรื่องราวเกี่ยวกับสินค้า ทำมาสร้างเป็น Storytelling ทำให้คนฟังรู้สึกสนใจและอยากที่จะทำตามผู้เล่าในทันที กระบวนการของ Storytelling นี้เป็นกระบวนการที่มีการสร้างกระบวนซ้อนของการสื่อสารเพื่อทำให้เป็นระบบ ระเบียบ มีการจัดขั้นตอนที่ทำให้คนฟังเข้าใจง่าย คนฟังสามารถเข้าถึงเนื้อหาที่เป็นหัวใจสำคัญของเรื่องราวได้มากสุด  ซึ่งในทางปฏิบัติของการนำเสนอด้วยการเล่าเรื่องนั้น มีองค์ประกอบที่มากมาย ที่ผู้นำเสนอต้องเข้าใจในแต่ละองค์ประกอบ และออกแบบการนำเสนอผ่าน Storytelling ให้ได้อย่างรื่นไหล ร้อยเรียง ตรงตามเป้าหมายของคนฟังให้มากที่สุด เป้าหมายของคนฟังคือการตอบสนองต่อการรับรู้ที่มีต่อผู้ฟังมากที่สุด

มีพนักงานหรือผู้บริหารหลายคนมักเข้าใจผิดคิดว่า การนำเสนอด้วยการเล่าเรื่อง Storytelling เป็นเพียงแค่การใช้น้ำเสียง เพื่อเล่าเรื่องหรือการแสดงออกมาเท่านั้น แต่ในความเป็นจริงนั้น การมีเทคนิคการสื่อสารได้ ไม่เพียงพอต่อการสร้างจุดสนใจให้กับผู้ฟัง ดึงสมาธิผู้ฟังให้อยู่กับเรื่องราวที่ต้องการนำเสนอ แต่การสื่อสารที่ดีคือการทำให้ผู้ฟังรู้สึก หยุด สนใจ เข้าใจและสุดท้ายอยากทำตามในสิ่งที่ผู้นำเสนอด้วย Storytelling ได้นำเสนอไว้ ถ้าพนักงานหรือผู้บริหารคนใด ทำได้เช่นนี้ก็จะส่งผล ทำให้ได้ผลลัพธ์ตามเป้าหมายที่ต้องการ การทำงานก็จะมีประสิทธิภาพและสามารถทำให้เกิดประสิทธิผลในงานนั้น ๆ ทันที

หลักสูตรอบรม การนำเสนอด้วย Storytelling

ประโยชน์ที่ผู้เข้าอบรมจะได้รับ-ผู้เรียนจะสามารถ

  • สามารถนำมาพัฒนาเทคนิคการนำเสนอ ด้วย Storytelling ทำให้โดดเด่นในการสะกดคนฟัง
  • เทคนิคการนำเสนอแบบ 360 องศา Storytelling ตัดความกังวลในทุกเวทีการนำเสนองาน
  • การค้นคว้าหารเรื่องราวที่สอดคล้องกับสภาพของผู้ฟัง ทำให้ผู้ฟังรู้สึกสนใจอยากติดตามอย่างต่อเนื่อง
  • หลักการนำเสนอ ด้วยการเล่าเรื่องมาใช้ในการการนำเสนอทำให้การนำเสนอเป็นเรื่องที่น่าสนใจของผู้ฟัง
  • เข้าใจหลักในการสร้างตัวตน เมื่อต้องนำเสนอด้วย Storytelling
  • เทคนิคการเล่าเรื่องในรูปแบบต่างๆ เพื่อการนำเสนอพร้อมกับการเลือกใช้สื่อ ให้มีความเหมาะสมในการสร้างความสนใจในการนำเสนอด้วยการเล่าเรื่อง
  • สร้างกลไกการร้อยเรียง เนื้อหาที่สำคัญ ให้มีความเหมาะสมในการเล่าเรื่องด้วยหลักเส้นทางเรื่องราว
  • การลดความประหม่า ด้วยการสร้างตนเองในแบบของตนเอง ให้มั่นใจด้วยตนเอง
  • สามารถนำไปประยุกต์ในการปฏิบัติงานได้อย่างประสิทธิภาพ

เนื้อหาโดยสังเขป

วันที่1: วิเคราะห์จุดอ่อนในการนำเสนอ เพื่อค้นหาหลักในการนำเสนอด้วยการเล่าเรื่องอย่างถูกต้อง

  • เมื่อโลกเปลี่ยน การนำเสนอต้องเปลี่ยน แต่อารมณ์ผู้ฟังไม่เคยเปลี่ยน
  • วิเคราะห์ปัญหาจากคนฟังในการนำเสนอ เมื่อคนฟังไม่อยากฟัง แต่ต้องทนฟัง
  • การวิเคราะห์ตนเองเรื่องแนวทางในการนำเสนอที่มักคิดว่าเข้าใจถูกต้อง
    • วิเคราะห์ปัญหาอุปสรรครายบุคคล เพื่อค้นหาแนวทางในการนำเสนอด้วยการเล่าเรื่องที่ประทับใจ
  • วิเคราะห์สิ่งที่ผู้นำเสนอ ทำได้ดี ไม่ได้ทำ และต้องปรับปรุง
  • ความสำคัญในการนำเสนอ ด้วยการ Storytelling ถึงเวลาทดแทนเป้าหมายเดิมแต่วิธีการต้องเปลี่ยน
  • ความแตกต่างของการนำเสนอแบบปกติ กับ Storytelling ขจัดความสับสนในตนเอง
  • การพัฒนาและสร้าง ฮีโร่ให้เกิดขึ้นเพื่อทำหน้าที่ในการนำเสนอด้วยการเล่าเรื่อง
  • การพัฒนาเรื่องเล่า แหล่งที่มา การคัดเรื่องให้เหมาะกับวัถุประสงค์ทั้งคนฟังและเป้าหมาย
  • ประเภทของการเล่าเรื่อง และ พัฒนารูปแบบให้เหมาะสมกับวัตถุประสงค์
  • วิเคราะห์แนวการรับรู้ของผู้ฟังตามคุณลักษณะของสมอง Brain-Base Learning: BBL
    • วิเคราะห์ผู้ฟัง ตามเส้นทางการนำเสนอ StoryTelling เพื่อการเข้าถึงความต้องการที่แท้จริงของคนฟัง
    • วิเคราะห์และสำรวจความคาดหวังของผู้ฟังในการนำเสนอ เพื่อกำหนดจุดนำเสนอที่น่าสนใจ
  • การวางแผน กำหนดวัตถุประสงค์ วิเคราะห์ ออกแบบ พัฒนา การยกระดับ
  • การบริหารภาพลักษณ์ให้สอดคล้องกับเนื้อหาการเล่าเรื่อง
  • การเคลื่อนไหวในลักษณะต่าง ๆ และความหมายของการเคลื่อนไหวในอาริยาบทต่าง ๆ
  • การจัดทำ Work Shop บทบาทสมมุติ ฝึกปฏิบัติผ่านกิจกรรม และการระดมสมอง

 

วันที่ 2: การพัฒนาบทภาพโปรแกรมภาพเพื่อการเล่าเรื่องและตอบโจทย์คนฟัง

  • การจัดโครงสร้างเรื่องเล่า ให้ตอบโจทย์คนฟัง ตามแนวทางของ Storytelling
  • การเรียงลำดับเรื่องเล่า ด้วยการวางกรอบเนื้อหา การสร้างแพทเทิร์น การวางเนื้อหาตามแนวทางการทำงานของสมองของผู้ฟัง
  • การสร้างเทรมเพลสเรื่องเล่า เพื่อให้ง่ายต่อการเล่าเรื่อง สรุป จับประเด็น สร้างเรื่องราว
  • การจัดเตรียมข้อมูล องค์ประกอบที่สำคัญ เพื่อให้สอดคล้องกับการทำงานของสมอง
  • การเขียนเรื่องราว-เทคนิคและกลยุทธ์ เพื่อพัฒนาเป็นบทภาพโปรแกรม
  • เทคนิคการเชื่อมโยง การสร้างความผูกพันธ์กับคนฟัง ทำให้ได้เรื่องราวที่น่าสนใจ
  • เทคนิคการจดจำเรื่องราว ถ้าต้องเล่าเรื่องราวแบบยาว ๆ ผ่านสื่อการนำเสนอ
  • การวางตัวตน ให้น่าสนใจ การวางจิตใจให้เหนือชั้น ทำให้คนฟังรู้สึกดีต่อการนำเสนอ
  • การประเมินผลเนื้อหา พัฒนาความเข้าใจ การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า
  • การลดข้อกังวลและการตอบข้อซักถามและจัดการคำถามลองของจากผู้ฟัง
  • การประเมิน ตรวจสอบ เพื่อพัฒนาและปรับปรุง Storytelling ให้เป็นเรื่องราวที่ประสบความสำเร็จ
  • การจัดทำ Work Shop บทบาทสมมุติ ฝึกปฏิบัติผ่านกิจกรรม และการระดมสมอง

ท่านสามารถปรึกษาวิทยากรได้ฟรีที่ Line:@dr.surachai

หรือ สแกน QR Code ด้านข้าง เพื่อการติดต่อ ดร.สุรชัย โฆษิตบวรชัย ได้เลย

อัตราค่าลงทะเบียน หลักสูตร การโน้มน้าวใจ The Power Of Persuasion

อัตราค่าลงทะเบียน

12,000

12,000

ภาษีมูลค่าเพิ่ม
7 %

840

840

ภาษีหัก
ณ.ที่จ่าย 3 %

360

360

การชำระเงิน ต้องชำระเงินก่อนวันอบรม 10 วัน

  • ชำระโดยสั่งจ่ายเช็ค / แคชเชียร์เช็ค ขีดคร่อม หรือ โอนเงินเข้าบัญชี :
    บริษัท ที่ปรึกษาและพัฒนาธุรกิจ จำกัด หรือ Business Consultant and Development Co.,Ltd.
    ธนาคารกสิกรไทย   สาขาอ่อนนุช 39 บัญชีออมทรัพย์ เลขที่บัญชี 746-2-39224-3
  • เลขประจำตัวผู้เสียภาษี 3 0300 5638 2
  • เลขประจำตัวผู้เสียภาษี(13 หลัก) 0 1055 43021 83 5
  • ที่อยู่: 1991/157 ถ.อ่อนนุช แขวงอ่อนนุช  เขตสวนหลวง กรุงเทพฯ 10250

ในกรณีโอนเงิน กรุณา Fax ใบฝากเงินพร้อมรายละเอียดผู้โอนไปยังสถาบันฯ เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการชำระเงิน ไปยังเบอร์..
โทรสาร 02 349 1789

(ค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรม สามารถลดหย่อนภาษีได้ 200% ตามประกาศ พ.ร.บ.ส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน)

** หมายเหตุ หากต้องการยกเลิกหลักสูตรต้องแจ้งล่วงหน้าอย่างน้อย 7 วัน มิฉะนั้นท่านต้องชำระค่าใช้จ่ายร้อยละ 30

รวมเงินรวมที่
ต้องชำระ

12,480

12,480

Loading

UA-75256908-1