หลักสูตรการเจรจาเพื่อแก้ข้อโต้แย้งของลูกค้า เป็นหลักสูตรที่ครอบคลุมเนื้อหาที่ใช้งานได้จริงเพื่อการทำงาน โดยหลักสูตรกลยุทธ์การเจรจาต่อรอง นี้จะเปิดเผยเคล็ดลับที่สำคัญ ในการเจรจาต่อรองเพื่อแก้ข้อโต้แย้ง เพื่อการเตรียมความพร้อมก่อนการเจรจาต่อรองเพื่อแก้ข้อโต้แย้ง จนถึงการปิดการขาย ทำให้พนักงนขายทุกคนมีแนวทางในการเจรจาต่อรองเพื่อการแก้ข้อโต้แย้งด้วยตนเอง ซึ่งเนื้อหาการอบรมมุ่งเน้นไปที่ประเด็นสำคัญดังต่อไปนี้:

1.การทำความเข้าใจข้อโต้แย้งของลูกค้า : เริ่มต้นด้วยการสำรวจสาเหตุทั่วไปของข้อโต้แย้งของลูกค้าและผลกระทบที่มีต่อทั้งลูกค้าและองค์กร ผู้เข้าอบรมจะได้รับข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับจิตวิทยาเพื่อสร้างความไม่พอใจของลูกค้า และวิธีที่จะลดระดับการแก้โต้แย้งด้วยการเจรจาต่อรอง

2.การสื่อสารเพื่อการโน้มน้าวใจที่มีประสิทธิภาพ : การสื่อสารเพื่อการดน้มน้าวใจที่มีประสิทธิภาพเป็นหัวใจสำคัญของการเจรจาต่อรองเพื่อแก้ข้อโต้แย้งที่ประสบความสำเร็จ ผู้เข้าอบรมจะได้เรียนรู้ศิลปะของการฟังอย่างกระตือรือร้น ความเห็นอกเห็นใจ และพลังของการสื่อสารที่ชัดเจนและให้เกียรติ

3.กระบวนการเจรจาต่อรองเพื่อแก้ข้อโต้แย้ง : การเจรจาต่อรองเป็นกระบวนการที่มีโครงสร้างซึ่งเกี่ยวข้องกับขั้นตอนต่างๆ ตั้งแต่การเตรียมการไปจนถึงการแก้ปัญหา หลักสูตรนี้จะให้คำแนะนำทีละขั้นตอนเพื่อการเจรจาต่อรองที่มีประสิทธิภาพ ช่วยให้ผู้เข้าร่วมเข้าใจถึงความสำคัญของการเตรียมตัวและความแตกต่างของแต่ละขั้นตอน

4. กลยุทธ์การแก้ไขข้อโต้แย้ง : ข้อโต้แย้งประเภทต่างๆ ต้องใช้กลยุทธ์การเจรจาต่อรองที่แตกต่างกัน ผู้เข้าอบรมจจะมีรูปแบบ การแก้ไขข้อโต้แย้งด้วยเทคนิคการเจรจาต่อรองแบบต่างๆ และเรียนรู้ว่าเมื่อใดและอย่างไรที่จะนำเทคนิคการเจรจาต่อรองไปใช้ในสถานการณ์การที่แตกต่่างกันออกไป

5.การแก้ปัญหาและการประนีประนอม : หลักสูตรนี้จะแนะนำผู้เข้าร่วมเกี่ยวกับเทคนิคการเจรจาต่อรองเพื่อการแก้ปัญหาและกลยุทธ์ประนีประนอม ช่วยให้พวกเขาสร้างหนทางที่ได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่ายซึ่งจัดการกับข้อกังวลของลูกค้าและนโยบายขององค์กร

6.การเอาชนะความท้าทาย : การเจรจาต่่อรองอาจซับซ้อนและท้าทาย และหลักสูตรนี้จัดเตรียมเครื่องมือและกลยุทธ์ในการเจรจาต่อรองให้ผู้เข้าร่วมเพื่อเอาชนะอุปสรรคเพื่อสร้างความพอใจทั้งสองฝ่าย

7. การรักษาและรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้า : นอกเหนือจากการแก้ไขข้อโต้แย้งด้วยการเจรจาต่อรอง หลักสูตรนี้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการติดตามผลและการสร้างความสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้แน่ใจว่าความพึงพอใจของลูกค้ายังคงอยู่ในระดับสูงและลดข้อโต้แย้งด้วยการเจรจาต่อรองในอนาคตได้เป็นอย่างดี

หลักสูตร ฝึกอบรม กลยุทธ์การเจรจาต่อรองเพื่อแก้ข้อโต้แย้ง อย่างมืออาชีพ

(Negotiation to Recover Customer Arguement)

ความเป็นมาของหลักสูตร ฝึกอบรม เทคนิคการเจรจาต่อรองเพื่อการแก้ข้อโต้แย้ง

การเจรจาต่อรองคือหัวใจสำคัญในการทำธุรกิจในปัจจุบัน เพราะการเจรจาต่อรองที่ดี จะนำไปสู่การปิดการขาย และลดความไม่พอใจของลูกค้า

ในการขายสินค้าให้ลูกค้า ต่างทราบดีว่า เป็นเรื่องที่น่าปวดหัวสำหรับพนักงานขายคือการเจรจาต่อรองและการโต้แย้งจากลูกค้า ทำให้พนักงานขายที่ไม่มีวิธีการบริหารจัดการที่ดีพอ จะทำให้เป็นต้นเหตุของความไม่พอใจของลูกค้า

การเจรจาต่อรองเพื่อการแก้ข้อดต้แย้ง จึงเป็นเครื่องมือสำคัญที่ถูกนำมาใช้ในการสื่อสารเพื่อสร้างความพึงพอใจทั้งสองฝ่าย

ในทุกองค์กรต่างให้ความสำคัญกับการขาย เพราะการขายจะนำมาซึ่งรายได้ให้กับองค์กร ถ้าพนักงานมีความสามารถในการเจรจาต่อรองเพื่อการแก้ข้อโต้แย้ง จะสร้างรายได้ให้กับองค์กรนั้น ๆ

แต่ปัญหาหลัก ๆ ในทีมขายคือพนักงานขายไม่สามารถจะเจรจาต่อรองเพื่อการแก้ข้อโต้แย้ง ทำให้ไม่สามารถปิดการขายได้ สาเหตุที่พนักงานขายต่างเป็นเช่นนี้เพราะ ไม่มีการแนวทางในการเจรจาต่อรองเพื่อการแก้ข้อโต้แย้ง ทำให้พนักงานขายมีความสับสน ขาดแผนการเจรจาต่อรองเพื่อแก้ข้อดต้แย้งที่ชัดเจน จะไม่มีแนวทางในการขายที่ชัดเจน ส่งผลให้เกิดปัญหาในเรื่องการเจรจาต่อรองเพื่อแก้ข้อโต้แย้ง ขายที่หลากหลาย เช่นปัญหาการขายเช่นนี้:

1. พนักงานขาย ขายไม่ได้ เพราะไม่มีแนวทางการเจรจาต่อรอง ทำให้การเจรจาต่อรอง ไม่บรรลุเป้าหมาย แต่จะโทษทุกอย่างที่อยู่รอบตัว เช่นโทษลูกค้าว่า เขี้ยว  ไม่มีวิธีการเจรจาต่อรองมาแก้ไข ไม่มีแผนการเจรจาต่อรองที่ดีพอ
2. ขาดแผนการเจรจาต่อรองเพื่อแก้ข้อโต้แย้ง ที่มีประสิทธิภาพในการสื่อสารลูกค้า ไม่มีแนวทางการเจรจาต่อรองที่ชัดเจน
3. ไม่เข้าใจความสำคัญหรือเทคนิคการเจรจาต่อรองเพื่อการแก้ข้อโต้แย้ง ในแต่ละช่วงเวลาทั้ง ๆ ที่มีโอกาสที่จะปิดการขาย ขาดแผนการเจรจาต่อรองเพื่อการปิดการขายที่ดีพอ ทำให้ปิดการขายไม่ได้
4. ไม่สามารถรักษาขั้นตอนการเจรจาต่อรอง ให้เป็นไปตามกระบวนการเจรจาต่อรองเพื่อการแก้ข้อโต้แย้งที่วางไว้ ทำให้สับสนเพราะ ขาดความเข้าใจที่ชัดเจน
5. ทัศนคติเป็นลบ ไม่เชื่อเรื่องการนำเครื่องมือการเจรจาต่อรองเพื่อการแก้ข้อดต้แย้งมาใช้ ทำให้ไม่มีแรงจูงใจในการกระตุ้นตนเองให้มีวินัยในการเจรจาต่อรอง
6. ไม่เข้าใจเรื่องบทบาท ภาระหน้าที่ ของตนเองในการเจรจาต่อรองเพื่อการแก้ข้อดต้แย้งกับทีมงาน ทำให้ลูกค้าจับแนวทางการเจรจาต่อรองได้ ผลที่ตามมาคือเสียเปรียบลูกค้าในการเจรจาต่อรอง
7. ไม่มีเครื่องมือที่เป็นเทรมเพลสในการเจรจาต่อรองเพื่อการแก้ข้อโต้แย้งที่ชัดเจน
8. ไม่มีเทคนิคในการเจรจาต่อรองเพื่อแก้ข้อโต้แย้งแต่ละขั้นตอน เพราะอยู่ในสถานการณ์จริงจะสับสน ทำให้โดนกดราคา
9. ไม่มีการวิเคราะห์จุดอ่อน จุดแข็งของตนเองและสถานการณ์ภายนอก ทำให้ไม่เข้าใจลูกค้า พลาดโอกาสสำคัญในระหว่างการเจรจาต่อรองเพื่อการแก้ข้อดต้แย้ง
10. ไม่ทำงานเหมือนนักเจรจาต่อรองเชิงรุก แต่ทำงานเป็นนักเจรจาต่อรองเชิงรับ ไม่คิดจะสื่อสารเพื่อสร้างความได้ปรียบในการเจรจาต่อรอง
11. ปัญหาอื่น ๆ ที่ทำให้พนักงานขายเจรจาต่อรองไม่ได้

แนวคิดที่พนักขายขายมักนำมาใช้ อย่างน่าสนใจ คือ

หลักการและเหตุผล หลักสูตร กลยุทธ์การเจรจาต่อรองเพื่อแก้ข้อโต้แย้ง อย่างมืออาชีพ

ในการติดต่อธุรกิจ เป็นเรื่องสำคัญของพนักงานทุกคน ที่ต้องมีการสื่อสารอย่งมีประสิทธิภาพ แต่สภาพของการสื่สารเพื่อทำธุรกิจ ย่อมมีข้อขัดแย้ง คือการมีข้อโต้แย้ง ซึ่งแนวโน้มในการแก้ข้อโต้แย้งจำเป็นต้องใช้ กลยุทธ์การเจรจาต่อรองเพื่อแก้ข้อโต้แย้ง เป็นเรื่องที่สำคัญและจำเป็นสำหรับพนังานทุกคน เพราะการสื่อสารเป็นเสมือนฟันเฟืองตัวแรกที่เป็นตัวขับเคลื่อนทำให้เกิดการทำงานร่วมกันได้อย่างง่ายขึ้น เพื่อนำไปสู่การสร้างความพึงพอใจให้ทั้งสองฝ่าย

ถึงแม้การโต้แย้งกลายเป็นเรื่องปกติในการติดต่อทางธุรกิจ แต่การแก้ข้อโต้แย้งอาจเป็นต้นเหตุแห้งปัญหาที่มากมาย ไม่ว่าจะเป็นข้อขัดแย้ง ความไม่พอใจ โกรธเคือง ทำให้หลายฝ่ายไม่พอใจในการติดต่อสื่อสารหว่างการติดต่อ ซึ่งปัญหาหลัก ๆ เช่นการขายในยุคปัจจุบัน ผู้ซื้อกับผู้ขายต่างมีความเป็นตัวตนในตนเองมากขึ้น จึงกล้าที่จะออกความคิดเห็น กล้าที่จะสื่อสารและกล้าที่จะโต้แย้งกับคู่เจรจาต่อรอง

โลกของการทำธุรกิจในปัจจุบันนั้น กระบวนการของการขายมีการปรับเปลี่ยนไปมากจากแนวคิดการขายในอดีต โดยต่างฝ่ายต่างมุ่งที่จะรักษาผลประโยชน์ของตนเองที่เพิ่มมากขึ้่น ทำให่สถานการณ์การสื่อสารมีความไม่พอใจ นำไปสู่การโต้แย้งระหว่างคนซื้อและคนขายนั่นเอง ซึ่งถ้าคนขายไม่เข้าใจกระบวนการเจรจาต่อรองเพื่อแก้ข้อโต้แย้งนี้ จะทำทุกคนเอาตัวเองเป็นที่ตั้ง ทำให้เกิดข้อขัดแย้งในการติตต่อธุรกิจ

การวิเคราะห์สถานการณ์การติดต่อธุรกิจ จึงจำเป็นต้องมองภาพการติดต่อธุรกิจแบบบูรณาการ คือมองครบทุกด้านในการเจรจาต่อรองแลลมีกลยุทธฺ์ การการมีกลยุทธ์ซึ่งเรียกว่า กลยุทธ์การเจรจาต่อรองเพื่อการแก้ข้อโต้แย้ง ที่สำคัญคือ พนักงานต้องมีการที่มีหลักในการเจรจาต่อรองเพื่อแก้ข้อโต้แย้ง ตามหลักสูตรหลักสูตร กลยุทธ์ การเจรจาต่อรองเพื่อแก้ข้อโต้แย้ง อย่างมืออาชีพ

ซึ่งสาเหตุหลักของการติดต่อธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นผู้ขาย ผู้ซื้อ หรือ นายจ้าง ลูกจ้าง ต่างก็นำแนวคิดการเจรจาต่อรองเช่นนี้ มาเป็นแนวคิดหลักมาใช้ในการขับเคลื่อนธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ เพื่อแก้ข้อโต้แย้ง

ดังนั้น คู่เจรจาต่อรอง ที่ผู้เป็นนักขาย ต้องมีกลยุทธ์การเจรจาต่อรองที่เป็นกระบวนการในการนำเทคนิคการเจรจาต่อรอง มาปรับเปลี่ยนคิด วิธีการนำ กลยุทธ์การเจรจาต่อรองเพื่อแก้ข้อโต้แย้ง  ให้มีความเหมาะสมกับสภาพของการแข่งขันทางธุรกิจในปัจจุบัน เพราะหัวใจที่สำคัญของการเพิ่มยอดขายนั้นมาจากการที่ผู้ขายนั้นสามารถเข้าถึงความต้องการที่แท้จริงของลูกค้า จนสามารถที่จะนำเสนอในสิ่งที่ลูกค้าต้องการได้

ผนวกกับผู้ขายนั้นมีแนวการขายสมัย ใหม่ที่มุ่งเน้นการขายแนวรุก มองผลประโยชน์ของตนเอง เพราะต้องการทำให้ยอดขายนั้นเพิ่มขึ้นได้อย่างก้าวกระโดด และสร้างความมั่นคงให้กับองค์กร ซึ่งองค์ประกอบการเจรจาต่อรอง เชิงรุกดังเช่นนักขายมือเซียน จะมีแนวคิดและกระบวน การของการขายที่แตกต่างจากการขายทั่วไป อันประกอบด้วยขั้นตอนของการขายที่เป็นรูปแบบมากขึ้น ทั้งขั้นตอนในการขายและการเจรจาต่อรอง สร้างให้ธุรกิจของตนนั้นมีความโดดเด่นเหนือผู้อื่น ซึ่งจะทำให้ลูกค้านั้นสามารถจดจำได้ง่ายขึ้น เข้าใจและยอมรับในเงื่อนไขการซื้อเพิ่มมากขึ้น

หลักสูตร กลยุทธ์การเจรจาต่อรองเพื่อแก้ข้อโต้แย้งอย่างมืออาชีพ (Professional Negotiation and Argument Strategies)”  ทำให้ผู้ที่ทำงานมีความเข้าใจสามารถที่จะฝึกหัดและทดลองสร้างความเข้าใจ ในการเจรจาต่อรองได้อย่างเป็นรูปธรรมในการทำงานเป็น

เนื้อหามีการประยุกต์เนื้อหามาจากประเทศสหรัฐอเมริกาที่วิทยากรสำเร็จการศึกษาด้านการเจรจาต่อรองโดยตรง จาก มหาวิทยาลัย Notre Dame University และมีประสบการณ์ในการขายมากกว่า 30 ปี นำมาออกแบบเป็นแนวทางการวางแผนการเจรจาต่อรอง มีเทรมเพลสให้ทุกคนได้ทำตาม ทำให้เข้าใจง่าย เพื่อบรรลุเป้าหมายที่องค์กรได้ตั้งไว้ ทำให้พนักงานขายทุกคนประสบความสำเร็จและปิดการขายได้ตามที่วางไว้

ดังนั้นการเรียนรู้เทคนิคการเจรจาต่อรองเพื่อการแก้ข้อโต้แย้งแบบใหม่ๆ ที่จะเป็นตัวช่วยที่สำคัญทำให้ผู้ที่ทำงานขายเข้าใจถึงหลักการทำงานเชิงรุกและสามารถครองใจลูกค้า ซึ่งเป็นพื้นฐานของความสำเร็จระยะยาวของทุกองค์กร