หลักสูตรอบรม Storytelling เพื่อการสื่อสารการขายที่มีประสิทธิภาพ

หลักสูตรอบรม “Storytelling เพื่อการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ”

​

หลักการและเหตุผล หลักสูตรอบรม “Storytelling เพื่อการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ” 

ความสำเร็จในการทำงานต่างคนต่างทราบดีว่าเป็นผลจากการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ ไม่ว่าองค์กรจะมีขนาดเท่าไหร่ก็ตาม เพราะการสื่อสารไม่ขึ้นกับจำนวนคน ถึงแม้องค์กรขนาดเล็กจะมีคนจำนวนไม่มาก แต่ถ้าการสื่อสารที่ไม่ถูกต้องก็ทำให้ไม่มีผลลัพธ์ที่ดีออกมา หรือถ้าเป็นองค์กรขนาดใหญ่ มีจำนวนคนที่มากการสื่อสารยิ่งมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะทำให้ทุกคนมีความเข้าใจไปในทิศทางเดียวกัน หรือถ้าใครทำงานในส่วนงานต่าง ๆ ที่ต้องมีการติดต่อกับผู้อื่นยิ่งต้องการการสื่อสารที่ดีมากเท่านั้น จึงกล่าวได้ว่าการสื่อสารเป็นหัวใจสำคัญของความสำเร็จในทุกธุรกิจอย่างแท้จริง แต่ในสภาพของการทำงานพบว่า คนในองค์กรหลายส่วนงานที่ต้องติดต่อกับคนอื่น ทั้งภายในภายนอก ต่างมองข้ามเรื่องการสื่อสารไป ทำให้ปัญหาต่างๆ ไม่ได้ถูกไขอย่างถูกต้องในเวลาอันควร ทำให้งานไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้เช่น

1. ลูกค้าภายนอกไม่ต้องการช่วยเหลือ เพราะพนักงานสื่อสารไม่ดีพอ
2. พนักงานไม่สามารถอธิบายเหตุผลที่ลูกค้าสอบถาม เช่นเรื่องของราคา เรื่อคุณสมบัติสินค้า
3. การสื่อสารด้วยน้ำเสียงที่แข็งกระด้าง ทำให้ไม่มีใครอยากติดต่อด้วย
4. ไม่สามารถโน้มน้าวใจลูกค้าได้ ทำให้ไม่เกิดการซื้อขาย หรือ ทำธุรกิจอ้วยความยากลำบาก
5. ความแตกต่างของวัย ทำให้ไม่เข้าใจภาษาในการสื่อสารซึ่งกันและกัน
6. ไม่สามารถโน้มน้าวใจให้ผู้อื่นคล้อยตามที่ตนเองอยากได้
7. คนอื่นไม่สนใจที่จะรับฟังสิ่งที่นำเสนอ มองข้ามเรื่องที่เรากำลังจะสื่อสารออกไป คนอื่นกำลังบอก
8. และความท้าทายอื่น ๆ ที่องค์กรต่างต้องเร่งแก้ไข

กลไกการสื่อสารที่ดีจำเป็นต้องให้มีความเหาะสมกับสภาพการทำงานของแต่ละคนที่จะต้องนำไปใช้ เช่นฝ่ายขายจำเป็นต้องใช้ทักษะการสื่อสารเพื่อปิดการขาย เพราะถึงแม้พนักงานขายจะทำงานหนักอย่างไร ก็ไม่มีประโยชน์ ถ้าพนักงานขายไม่สามารถปิดการขายได้ พนักงานขายทราบดีง่าการปิดการขายจะเป็นภารกิจสำคัญของคนที่ทำงานขาย แต่ขั้นตอนของการปิดการขายเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ซับซ้อน แยบยล จึงทำให้พนักงานขายหลายคนพลาดโอกาสทองของการขายไปอย่างน่าเสียดายซึ่งกลไกการปิดการขายเป็นผลของการสื่อสารหรือ Storytelling ที่มีประสิทธิภาพนั่นเอง  ซึ่งวิธีการสื่อสารเพื่อทำให้เทคนิคการขายประสบความสำเร็จประกอบไปด้วยกลยุทธ์การโน้มน้าวใจ กลยุทธ์เจรจาต่อรอง และ Storytelling ทำให้ชนะใจลูกค้า และลูกค้ายินดีที่จะซื้อหรือเลือกที่จะเป็นคู่ค้าทางธุรกิจ พนักงานขายต้องกระตุ้นให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อด้วยกระ บวนการสื่อสารจาก Storytelling ของตนเอง ซึ่งหัวใจสำคัญสำหรับเทคนิคการสื่อสารด้วย Storytelling จะเป็นการผสมผสานแนวคิดจิตวิทยาเพื่อนำมาใช้กระตุ้นให้คนฟังคล้อยตามเห็นด้วยและอยากปฏิบัติตาม ซึ่งกลไกเหล่านี้จะได้มากจากการปรับทัศนคติของพนักขายทุกคน  ให้มีการยอมรับเรื่องการสื่อสารและนำ Storytelling มาใช้ในการโน้มน้าวใจลูกค้านั่นเอง

หลักสูตร Storytelling เพื่อการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ มีแนวทางในการออกแบบหลักสูตรที่จะมุ่งเน้นเนื้อหาช่วยให้ผู้เรียนทุกคน สามารถใช้การสื่อสารที่ผ่านการเล่าเรื่องที่เป็น Storytelling พนักขายทุกคนสามารถนำเทคนิคนี้มาใช้ในการขาย เช่นการสื่อสาร การเจรจาต่อรอง การโน้มน้าวใจ และการนำเสนอด้วยการเล่าเรื่อง เทคนิคการสื่อสารด้วย Storytelling เป็นการสร้างความได้เปรียบทางกลุยทธ์การขาย ทำให้พนักงานมีศิลปในการโน้มน้าวใจผ่าน Storytelling ด้วยการวิเคราะห์จิตวิทยาลูกค้า จนสามารถเชื่อมโยงกับสินค้าให้มีความเหมาะสมกับความต้องการของลูกค้าทำให้การตัดสินใจซื้อของลูกค้าง่ายขึ้น เร็วขึ้นแบบทันทีทันใดหลังจากฟังพนักงานขายนำเสนอการขาย ผู้เข้าอบรมจะได้เห็นขั้นตอนการสื่อสารด้วย Storytelling ที่เป็นขั้นเป็นตอนและการใช้เทคนิค Storytelling เทคนิคการเจรจาต่อรอง การโน้มน้าวใจและเทคนิคการปิดการขาย ในหลากหลายวิธี ทำให้เพิ่มสัดส่วนของความสำเร็จในการสื่อสารกับลูกค้าเพื่อตัดสินใจซื้อ ผู้เข้าอบรมเข้าถึงความง่ายและความมั่นใจในการสื่อสาร ด้วย Storytelling ของตนเองในทุกครั้งที่ต้องติดต่อประสานงานกับผู้อื่น สร้างโอกาสในการขายได้อย่างต่อเนื่อง

ประโยชน์ที่ผู้เข้าอบรมจะได้รับ-ผู้เรียนจะสามารถ

1. เข้าใจเทคนิคการสื่อสารด้วยการ Storytelling ทำให้เกิดการโน้มน้าวใจลูกค้าตัดสินใจซื่อสินค้า
2. หัวใจสำคัญของการนำเทคนิค Storytelling มาใช้ในการสื่อสาร การเจรจาต่อรองและการปิดการขาย เพื่อหลีกเลี่ยงสงครามราคา
3. พัฒนาความสัมพันธ์กับลูกค้าผ่านกระบวนการสื่อสารด้วยการเล่าเรื่อง Storytelling เข้าถึงจิตวิทยาการตัดสินใจของลูกค้า
4. เข้าใจขั้นตอนการจัดการกับความกังวลใจที่ลูกค้ามีกับตัวพนักงานขายทำให้ไม่ตัดสินใจซื้อ
5. เข้าใจกระบวนการทางความคิดการตัดสินใจของลูกค้า ซึ่งเป็นแรงผลักดันให้ลูกค้าคิดว่าตนเองมีแนวทางตัดสินใจที่ถูกต้อง ซึ่งพนักงานขายจะต้องนำ เทคนิค Storytelling มาเป็นเครื่องมือเปลี่ยนความคิดลูกค้า
6. เข้าใจกระบวนการของใช้ เทคนิคการเล่าเรื่อง เทคนิค Storytelling เพื่อปิดการขายที่มุ่งเน้นการความพึงพอใจลูกค้าในการซื้อมากกว่าการกดดันให้ลูกค้าซื้อ “เต็มใจ อยากได้ และยอมซื้อ”
7. กลยุทธ์การเจรจาต่อรองแบบ Win-Win เพื่อนำไปสู่การใช้ในการโน้มน้าวใจให้ตัดสินใจ
8. ทำให้ลูกค้าประทับใจจากการสื่อสารของพนักวาน นำมาสู่ประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า นำมาซึ่งการปิดการขายได้อย่างต่อเนื่อง
9. สามารถประยุต์เพื่อ นำมาใช้เป็นเทคนิคการขาย ด้วยเทคนิคการปิดการขาย ได้จริงในการขาย

12,480

12,480