วิธีการเป็นวิทยากร ความจำเป็นในการใช้วิทยากร

☝️เมื่อไร บริษัทคุณ จำเป็นต้องใช้วิทยากร..เทคนิคการเป็นวิทยากร

มีหลายองค์กรอาจตั้งคำถามเช่นนี้ เพราะร้อยวันพันปี ไม่เคยได้ใช้บริการของวิทยากร มาเป็นตัวช่วยในการพัฒนาพนักงานของตนเอง จึงทำให้มองไม่เห็นความจำเป็นในการที่จะมีวิทยากรมาช่วย..

จึงเป็นเรื่องยากมากที่ทำให้องค์กรเหล่านี้จะเข้าใจถึงความจำเป็นในการเชิญวิทยากรมาเป็นตัวช่วยในการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของพนักงาน

ซึ่งแตกต่างจากองค์กรชั้นนำของโลก ล้วนให้ความสำคัญในการพัฒนาทีมงาน หรือ องค์กรชั้นนำในประเทศไทย บริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ต่างบรรจุเรื่องการอบรมสัมมนาไว้ในแผนการพัฒนาบุคลากร บางแห่งระบุชัดเจน ถึงจำนวนวัน ที่พนักงานต้องอบรมต่อปี

‍♂️แสดงว่าการฝึกอบรมต้องมีความสำคัญ องค์กรชั้นนำให้ความสำคัญ จึงตั้งคำถามที่อยากจะถามองค์กรอีกหลายแห่งที่มองข้ามการฝึกอบรมพนักงานไป ว่า..

เมื่อถึงช่วงเวลาปลายปี..องค์กรมีการประเมินผลงานพนักงาน ให้คะแนนออกมาหลากหลาย มากบ้าง น้อยบ้าง นำผลการประเมินไปทำอะไร..

บางคนบอกนำมาพิจารณาการขึ้นเงินเดือน หรือการให้ค่าตอบแทนพิเศษที่เรียกว่า โบนัส..

จึงเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย ที่การประเมินจะนำมาใช้แค่การพิจารณาเงินพิเศษ เพราะ..

การประเมินนั้นคือจุดเริ่มต้นของการพัฒนาผลผลิตในองค์กรให้เพิ่มขึ้นในปีต่อ ๆ ไป เมื่อไรก็ตาม ถ้าประเมินพนักงานได้ไม่ดี ไม่มีความสามารถ แล้วไง..พนักงานคนนั้นจะเก่งขึ้นมาเองในปีถัดไปหรือ..

คำตอบคือ..มีโอกาสน้อยมากที่เป็นเช่นนั้น พนักงานก็คงทำงานเหมือนเดิม ไม่มีความสามารถก็คงเป็นเช่นนี้ในปีต่อ ๆ มา..อย่างน่าเสียดาย

การใช้วิทยากร การเชิญวิทยากรมาอบรม จึงเป็นความจำเป็นที่องค์กรจะต้องให้ความสำคัญ มาตรวจเช็คว่าองค์กรของคุณเป็นดังข้อใดข้อหนึ่งใน 5 ข้อนี้หรือไม่ ถ้า ใช่ ขอให้รู้ได้เลยว่า องค์กรคุณต้องการวิทยากรมืออาชีพเพื่อมาช่วยคุณในการพัฒนาพนักงาน ให้เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ซึ่งสามารถสรุปให้เข้าใจง่ายได้ 5 ประการ ดังนี้

1.พนักงานไม่ได้ใช้ทักษะอย่างถูกต้อง
มีพนักงานจำนวนไม่น้อยที่มีความสามารถมาก แต่ตนเองนั้นมองตัวเองไม่ออก ดังที่นักจิตวิทยาหลายท่านมักบอกถึง กฏ 20/80 คือมีศักยภาพ 80 แต่ใช้ในการทำงานเพียง20 วิทยากรจะเป็นตัวช่วยที่สำคัญในการดึงศักยภาพพนักงานออกมาทำงานได้เต็มที่มากขึ้น

2.พนักงานไม่รู้ว่าตนเองมีความสามารถ
พนักงานจำนวนไม่น้อยที่ไม่มั่นใจในตัวเอง เช่นให้ทำงานที่ง่าย ก็จะบอกว่ายาก เพราะไม่มั่นใจว่าจะทำได้ ตรงตามคาดหวังของผู้บริหาร การมีวิทยากรจะเป็นตัวช่วยเสริมสร้างความมั่นให้พนักงานมองความสามารถของตนเองออกว่า เป็นเช่นไร และจะนำความสามารถของตนเองมาใช้ได้อย่างไร

3.มองแนวทางการแก้ไขปัญหาไม่ออก
ปัญหามีอยู่รอบด้านแต่เมื่อถูกถามถึงปัญหา คนส่วนใหญ่มักบอกว่า ไม่มี แท้จริง ไม่มีหรือไม่รู้ ถ้าไม่รู้ ก็เป็นเรื่องน่ากังวลเพราะตนเองยังมองปัญหาตัวเองไม่ออก แล้วจะแก้ไขได้อย่างไร วิทยากรจะเป็นตัวช่วยที่จะดึงสภาพปัญหาออกมาให้เห็นเพื่อหาแนวทางในการแก้ไข

4.ไม่มั่นใจว่าตนเองคิดถูกหรือไม่
มีมุมมองความคิด หรือโซลูชั่นต่าง ๆ มากมาย ทำให้คนส่วนใหญ่ที่ต้องการหาทางแก้ปัญหา แต่ไม่กล้าทำ เพราะไม่รู้ว่าที่ตนเองกำลังคิดอยู่นั้นถูกหรือไม่..วิทยากรจะเป็นตัวช่วยที่จะหาข้อสรุปเพื่อเป็นทางออกในการแก้ปัญหาให้องค์กร

5.เป็นคนกลาง ลดข้อขัดแย้งในองค์กร
ในทุกองค์กรต่างมีข้อขัดแย้ง เช่นข้อขัดแย้งระหว่างพนักงาน ข้อขัดแย้งระหว่างแผนก ใครจะมาเป็นคนกลางในการทำให้เกิดการประสานงานได้ วิทยากรมืออาชีพจะมีจิตวิทยาในการที่จะเชื่อมประสานความคิดของพนักงานให้มีการทำงานแบบช่วยเหลือกันและกัน..

ข้อสังเกตประการสำคัญคือ สังเกตว่าองค์กรไหน ใช้วิทยากร ก็มักใช้อยู่เป็นประจำ เพราะอะไร ทำไม ลองหาคำตอบแล้ว คอมเม้นมาพูดคุยกัน..อาจทำให้พวกเราที่ไม่เคยใช้วิทยากรมีมุมมองที่หลาย นำมาช่วยตัดสินใจ..เพื่อเพิ่มปรสิทธิภาพการทำงานของพนักงาน ให้ได้ดีมีสุข ผู้บริหารก็ทะลุเป้าทุกปี อย่างนี้ไม่เฮได้อย่างไร..

#CertifiedTrainer,#TraineTheTrainer,#อบรมวิทยากร,#สถาบันพัฒนาวิทยากร,#เทคนิคการเป็นวิทยากร

สำหรับ หลักสูตร เทคนิคการเป็นวิทยากรมืออาชีพ ทุกท่านนะครับ

“ดร.สุรชัย โฆษิตบวรชัย” StepPlus Training