หลักสูตร ฝึกอบรม กลยุทธ์การขายเชิงรุก คือ หลักสูตรที่นำเครื่องมือมือการขาย ที่ชื่อว่า Dynamic Selling Analysis มาช่วยพนักงานขาย เพื่อเพิ่มโอกาสในการปิดการขาย
หลักสูตร ฝึกอบรม กลยุทธ์การขายเชิงรุก คืออะไร?
Dynamics Selling Skills for Excellent Performance
ทำไม หลักสูตร ฝึกอบรม กลยุทธ์การขายเชิงรุก ถึงเหมาะกับพนักงานขายทุกคน?
- เรียนกับวิทยากรมีประสบการขายจริง มากกว่า 25 ปี
- เป็นวิศวกรฝ่ายขาย ดูแลโครงการ ดูแล B2BและB2C การขายที่เป็น COmplex Sale
- เคยทำยอดขายได้มากกว่า 1,000 ล้านบาทต่อปี
- เป็น Top Sales ด้วยเทคนิคการขายเฉพาะตัว ที่พร้อมจะถ่ายทอดให้ทุกคนได้รู้ และทำตามแบบจับมือทำ
- จบเรื่องการขายโดยตรงจาก มหาวิทยาลัย ซานฟรานซิสโก ประเทศอเมริกา
- เคยทำตำแหน่งผู้บริหารมาก่อน ทำให้มองมุมกว้างของธุรกิจได้เป็นอย่างดี
- เน้นการฝึกปฏิบัติ มากกว่า ทฤษฎี
- มีเครื่องมือ Dynamic Selling Analysis ช่วยให้ วางแผนการขายได้เป็นอย่างดี
- มีขั้นตอนการขายที่ชัดเจน ทำให้ทุกคนนำไปใช้ได้ในการขายได้เลย
- ใช้เวลาไม่มาก แต่ได้ผลเป็นอย่างดี
- หลักสูตรนี้ เหมาะแก่การ อบรมพนักงานขายทั้งมีประสบการณ์และไม่มประสบการณ์
- วิทยากรรู้จริง ทั้งทำงานขายมาก่อน และ อบรมพนักงานขายมานานมาก ทำให้รู้ทุกแง่มุมของการขาย
6 คุณลักษณะของ พนักงานขายเชิงรุก ที่ประสบความสำเร็จ มีดังนี้:
1. มนุษย์สัมพันธ์ที่ดี–
กลยุทธ์การขายเชิงรุกที่ดี คือการก้าวไปสู่อีกระดับหนึ่งของการขาย การมีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดี มีเสน่ห์ ซื่อสัตย์ และมีความสัมพันธ์ที่ดี จะได้รับความไว้วางใจ เมื่ออยู่ต่อหน้าลูกค้า ทำให้ลูกค้าเปิดใจ และอยากซื้อสินค้าด้วย
2. นักแก้ปัญหา
กลยุทธ์การขายเชิงรุก ที่ดีนั้น ต้องมีกระบวนการในการแก้ไขปัญหาให้ลูกค้าอย่างกระตือรือร้น พนักงานขายต้องคาดการณ์ปัญหาก่อนที่จะเกิดขึ้น และรู้ว่าการบริการลูกค้า เพื่อสร้างความพึงพอใจให้ลูกค้าได้อย่างไร เมื่อการแก้ปัญหาลูกค้าสำเร็จ ลูกค้าจะกลับมาซื้ออีก เพราะพวกเขารู้ว่าปัญหาใดๆ ที่มีพนักงานจะช่วยพวกเขาได้เสมอ
3. มีภาวะผู้นำในตนเอง Self-Leadership
แรงผลักดันในตนเองของพนักงานขาย ต้องมีมากพอที่จะ สร้างเส้นทางการขายของตนเอง เพื่อให้มีความคิดสร้างสรรค์ใช้แนวคิดการขายใหม่ๆ และเรียนรู้ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ การบริหารเวลาไม่ใช่ปัญหาเพราะเน้นที่การจัดลำดับความสำคัญและอยู่กับงานและสร้างโอกาสในการขายของตนเองอย่างสม่ำเสมอ ลูกค้าของ Self-Motivator เพื่อกลยุทธ์การขายเชิงรุก
4. เทคนิคการสื่อสารเพื่อการโน้มน้าวใจ
การสื่อสารเพื่อการโน้มน้าวใจ ไม่ใช่แค่การพูดได้ พูดเป็น แต่ต้องเป็นการพูดให้คนฟังคล้อยตาม และอยากซื้อสินค้าพนักงานขายมุ่งเน้นไปที่ค้นหาข้อมูล ด้วยการตั้งคำถามทักษะการสื่อสารด้วยการถาม การใช้โทนเสียงก็มีความสำคัญเช่นกัน พวกเขารู้ว่าวิธีการนำเสนอข้อมูลมีความสำคัญมากกว่าสิ่งที่พวกเขาพูด การเน้นคำพูดที่ถูกต้องสามารถสร้างความแตกต่างได้ในการขายได้
5. การพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง
กลยุทธ์การขายเชิงรุก มีความซับซ้อน พนักงานขายไม่เพียงแต่มีความรู้เรื่องสินค้าเท่านั้น แต่ยังมีความรู้ด้านการติดต่อ การสร้างสัมพันธ์ มากกว่าการนั่งรอลูกค้ามาติดต่อ การเรียนรู้อย่างต่อเนื้องขของพนักงานขายจะเพิ่มโอกาสในการปิดการขายได้อย่างต่อเนื่อง
6. สร้างความยั่งยืนทางธุรกิจ
การขายที่ยั่งยืนมาจากกลยุทธ์การขายเชิงรุก เพราะการขายเชิงรุกจะมองถึงความต่อเนื่องในการขายที่มีต่อไป ถึงแม้จะปิดการขายได้แล้วก็ตาม การกระุต้นให้ลูกค้าซื้อซ้ำคือเป้าหมายของกลยุธ์การขายเชิงรุก
เนื้อหาหลักสูตรฝึกอบรม กลยุทธ์การขายเชิงรุก จะเน้นการ พัฒนาเทคนิคการขาย การวิเคราะห์โอกาสนในการขาย การสร้างความยั่งยืน ในการขาย การสร้างโฮกาสในการขายอย่างมืออาชีพ มีส่วนช่วยให้พนักงานขายประสบความสำเร็จในการบรรลุเป้าหมายการขายและให้บริการลูกค้าที่แตกต่างอย่างเห็นไดชัด
วิทยากรได้รับทุนรัฐบาลญี่ปุ่นไป Certified Trainer ในหลักสูตร การบริหารจัดการ และ หลักสูตร Executive Leadership
วิทยากรเคยจัดรายการโทรทัศน์ รายการ “เส้นทางนักขาย” ทางเนชั่น
หลักสูตรนี้ วิทยากรจบการศึกษาเรื่องการขาย จาก มหาวิทยาลัย ซานฟรานซิสโก และการเจรจาต่อรอง จาก มหาวิทยาลัย Notre Dame และ ประเทศอเมริกา
เหตุผลที่ พนักงานขายและผู้จัดการฝ่ายขาย ส่วนใหญ่ตัดสินใจเลือกอบรม หลักสูตร ฝึกอบรม กลยุทธ์การขายเชิงรุก
1.ทำให้การขายเป็นระบบ มากขึ้น มีกลยุทธ์การขายเชิงรุก
2.เข้าใจ คำว่า กลยุทธ์การขายเชิงรุก ที่พนักงานขาย อยู่เฉยๆ ไม่ได้อีกต่อไป
3.เข้าใจการเก็บรายละเอียดในการขาย ทำให้พลาดน้อยลง
4.ชอบมากเครื่องมือ Dynamic Selling Analysis ทำให้มองเห็นสิ่งที่ควรทำในการขาย
5.ไม่หลงทาง เพราะเข้าใจจิตวิทยาลูกค้า เพื่อเตรียมความพร้อมในการขายย
6.อาจารย์สอนสนุกมาก ๆ ไม่ง่วงเลย มองเห็นภาพการขายเชิงรุกชัดเจนมาก
7.เป็นพนักงานขายมาหลายปี มาเรียนทำให้พบว่า ตอนขายไม่ได้ทำหลายอย่าง ไม่เช่นนั้น ขายดีกว่านี้แน่นอน
8.การเตรียมตัวสำคัญมาก ก่อนออกการขาย ต้องรู้จักการ เตรียมตัวเป็นอย่างดี
9.ได้ฝึกการเปิดใจลูกค้า ด้วยการตั้งคำถามในการขาย และการดึงความสนใจลูกค้าในขณะขายสินค้า
10.มีมุมมองเรื่องการขายเปลี่ยนไปมาก มั่นใจที่จะพบลูกค้าเพราะมีขั้นตอนที่ชัดเจน
11.มีมุมมองที่ปรับตัวให้เข้ากับลูกค้ทำการขายเชิงรุก เพื่อสร้างโอกาสในการขายทุกขณะ
12.สร้างความไว้วางใจให้ลูกค้า ทำให้ลูกค้าเชื่อมั่น จนปิดการขายได้เพิ่มขึ้น
13.ทำให้ทราบว่า การวางแผนการขายเป็นเรื่องสำคัญที่สุด มีขั้นตอนการวางแผนในสิ่งที่ต้องทำเพิ่มมากขึ้น
14.มองกลยุทธ์การขายเชิงกลยุทธ์ เป็นแบบบูรณาการ ทำให้ตัดสินใจในเทคนิคการขายได้ง่ายขึ้น
15.ได้เทคนิคการเล่าเรื่อง Storytelling ทำให้นำเสนอมีความเป็นมืออาชีพมากขึ้น
16.ชอบมากคือการนำงานที่ทำมาใช้ในการวิเคราะห์กลยุทธ์การขายเชิงรุก เกี่ยวกับการขายไปใช้ในงานจริง
17.มีแนวทางการขายที่ชัดเจนขึ้น มีโอกาสแลกเปลี่ยนกลยุทธ์การขายเชิงรุกกับคนที่เข้าอบรม ทำให้เห็นว่ากลยุทธ์การขายเชิงรุกมีได้หลายแบบ
18.ควบคุมสถานการณ์การขายได้ดีขึ้น ทำให้กระบวนการขาย ควบคุมตัวแปรได้ง่ายขึ้น
19.สร้างความสัมพันธ์ลูกค้าได้ดีขึ้น ทำให้ใช้เวลาน้อยลงในการตีสนิทลูกค้า
20.กล้าที่จะคิดเรื่องเป้าหมายที่เพิ่มมากขึ้น เพราะมั่นใจในกลยุทธ์การขายเชิงรุก
21.เตรียมความพร้อมในการรับแรงกดดันจากลูกค้าได้เป็นอย่างดี ทำให้ความเครียดลดน้อยลง
22.กลยุทธ์การขายเชิงรุก ทำให้เห็นโอกาสในการปิดการขายเพิ่มมากขึ้น และกล้าที่จะปิดการขายเมื่อมีโอกาส
23.ได้รับคำแนะนำที่ดี จากวิทยากร ดรฦสุรชัย โฆษิตบวรชัย ทำให้ได้มุมมองการขายที่กว้างขึ้นมาก
24.ไม่กังวลในงาน เพราะนำงานมาใช้ในการวางกลุยทะ์การขายเชิงรุก ทำให้งานที่ทำ มีการให้ข้อมูลย้อนกลับจากอาจารย์และเพิ่อนร่วมห้องได้ดียิ่งขึ้น
เนื้อหา หลักสูตร ฝึกอบรม อย่างย่อ
ในสภาวการณ์ ของการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วในสังคมปัจจุบัน ทำให้เกิดการแข่งขันทางธุรกิจที่รุนแรงมากขึ้น อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เป็นผลทำให้ การต่อสู้ทางธุรกิจ จำเป็นต้องมีรูปแบบมากยิ่งขึ้น ใครสามารถเข้าถึงลูกค้าให้มากที่สุด ก็เป็นผู้ที่มีโอกาสในชัยชนะมากเท่านั้น จึงเป็นความสำคัญยิ่งที่ ทุกองค์กรจะต้องพัฒนารูปแบบการขับเคลื่อนทางธุรกิจให้มีความทันสมัยเข้าถึงลูกค้า
กลยุทธ์การขายเชิงรุก Dynamics Selling Skills for Excellent Performance เป็นวิธีหนึ่งที่นำ กระบวนการขาย มาใช้ สามารถสร้างแรงกระตุ้นความต้องการของลูกค้าที่ดีที่สุดวิธีหนึ่ง ทำให้ทราบถึงผลลัพธ์ได้อย่างรวดเร็ว และตอบสนองต่อลูกค้าได้ทันท่วงที สามารถเข้าถึงแก่นแท้ของความต้องการของลูกค้า
ซึ่งในหลักสูตร ฝึกอบรม กลยุทธ์การขายเชิงรุก จะเน้นการทำความเข้าใจพฤติกรรมการตัดสินใจของลูกค้า ทำให้พัฒนาความสัมพันธ์ลูกค้า ไปในระยะยาวได้
พนักงานขายซึ่งเปรียบเสมือนเป็นกลจักรที่สำคัญในการขับเคลื่อนภารกิจนี้ การพัฒนาแนวความคิดทางการขาย ให้มีกลยุทธ์การขายเชิงรุก อย่างมีรูปแบบ แบบแผน และความเข้าใจในหลักการการขายอย่างแท้จริง จึงเป็นความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะถูกนำขึ้นมาใช้เพื่อตอบสนองต่อสภาพการแข่งขันในปัจจุบัน
ในการฝึกอบรม กลยุทธ์การขายเชิงรุก จะนำเครื่องมือที่เรียนกว่า Dynamic Selling Analysis มาใช้เพื่อทำให้พนักงานขายที่เข้าอบรม มีกระบวนการขายที่ชัดเจน ทำซ้ำได้ และมีเทคนิคที่จะชนะใจลูกค้า
นอกจากลยุทธ์การขายเชิงรุก แล้วการสร้างวัฒนธรรมการขาย ที่ทำให้เกิดการช่วยเหลือกัน จนเป็นวัฒนธรรมการขายให้เกิดขึ้นภายในองค์กร ทำให้มีการช่วยเหลือกัน วิเคราะห์โอกาสในการปิดการขาย ได้อย่างนักขายมืออาชีพ
หลักสูตร ฝึกอบรม กลยุทธ์การขายเชิงรุก
Dynamics Selling Skills for Excellent Performance
หมายเหตุ: หลักสูตรนี้เป็นหลักสูตรที่ประยุกต์มาจากหลักสูตร Expert Selling จาก University of San Francisco ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยวิทยากรได้รับ Certificate of Expert Selling Program, Certificate of Expert Sales Management Program และ Certificate of Transitioning to Sales Management Program
สภาพปัญหาของทีมขาย
เป็นที่ทราบดีว่า กลไกการขายในปัจจุบันมีความซับซ้อนมากกว่าการขายในอดีต การขายที่ใช้เพียงเทคนิคการขายเป็นสิ่งที่ไม่เพียงพออีกต่อไป การวางแนวทางการขายให้เป็น วิทยาศาสตร์การขาย หมายถึงกระบวนการขายต้องจับต้องได้ เข้าใจได้และทำซ้ำได้ เป็นกลไกที่พนักงานต้องนำมาปรับเพื่อเพิ่มยอดขายให้กับตนเอง
แต่อย่างไรก็ตามที่ทุกองค์ที่มีทีมขาย มักพบกับความท้าทายที่เกิดขึ้นในพนักงานขายทำให้ปิดการขายไม่ได้ และหลายองค์กรก็อยู่ในวังวนของปัญหา ทำให้ไม่บรรลุเป้าหมายการขายได้ ดังนี้
- พนักงานขายไม่เชื่อมั่นในตนเอง มีทัศนคติเป็นลบ ทำให้ปิดการขายไม่ได้ทุกวัน แต่ไม่เข้าใจสาเหตุที่แท้จริง และคิดว่าทำดีที่สุดแล้ว
- พนักงานขายไม่เข้าใจขั้นตอนการซื้อ ทำให้มองจังหวะการปิดการขายไม่ออก ไม่รู้ว่าต้องทำอะไร ในแต่ละขั้นตอนการขาย
- พนักงานขายคิดเข้าข้างตนเองว่าขายเก่ง แต่ทำไมถึงปิดการขายไม่ได้ สับสนกับต้นเหตุของปัญหาที่แท้จริง การแก้ปัญหาไม่ตรงกับปัญหาที่เป็น
- ไม่มีเทคนิคในการสื่อสารเพื่อการขายกับลูกค้า ทำให้ลูกค้าไม่เข้าใจ เกิดความสับสนทั้งพนักงานขายและลูกค้า ทำให้ขายไม่ได้
- พนักงานขายไม่เคริ่องมือที่เป็นสูตรสำเร็จในการขาย ทำให้สับสนในการวิเคราะห์ข้อมูลการขาย และสับสนในขั้นตอนการขาย ทำให้ทำในสิ่งที่ไม่ควรทำ และไม่ทำในสิ่งที่ควรทำ
- พนักงานขายมีทัศนคติที่เป็นลบ ไม่ภูมิใจในอาชีพการขาย มองว่าการทำงานขาย ทำไปก่อนเพื่อรองานใหม่ ทำให้มองว่าเป็นอาชีพที่ไม่ก้าวหน้า ไม่มีกำลังใจ ไม่อยากติดต่อลูกค้า กลัวการปิดการขาย
- พนักงานขายขาดคววามมั่นใจ รู้สึกงานขายเป็นงานที่ยาก ไม่อยากทำ ไม่รู้ว่าต้องทำอะไร ไม่มีเทคนิคการปิดการขายไม่ได้
- วัฒนธรรมการขายด้วยการใช้วิธีการขายแบบเดิม ๆ ขาดการพัฒนาเทคนิคการขายเชิงรุก ไม่เอื้อให้ต่อการขายสมัยใหม่ที่ทันยุคทันสมัย
- ไม่เข้าใจเรื่อง การเจรจาต่อรองเพื่องานจัดซื้อ ทำให้กังวลใจเมื่อต้องอยู่ต่อหน้าพนักงานจัดซื้อ
- ปัญหาและความท้าทาบอื่น ๆ ที่พนักงานขายและผู้จัดการฝ่ายขายมองไม่ออก ทำให้ไม่บรรุเป้าหมายการขายขององค์กร
กลยุทธ์การขายเชิงรุก (Dynamics Selling Skills for Excellent Performance) การปรับแผนการขายของคุณให้สอดคล้องกับกระบวนการซื้อของลูกค้า ลูกค้าทุกรายมีกระบวนการตัดสินใจและการจัดซื้อที่แตกต่างกัน ในแต่ละองค์กรจะมีขั้นตอนเฉพาะของตนเองที่ชัดเจน จึงเป็นสาเหตุที่กระบวนการขายของพนักงานขายต้องมีความยืดหยุ่นเพียงพอที่จะตอบสนองความต้องการของลูกค้า พนักงานขายจำเป็นต้องพัฒนาความสัมพันธ์และพยายามทำความเข้าใจว่าลูกค้า มีขั้นตอนการตัดสินใจอย่างไร อะไรคือสิ่งที่ต้องทำ และจัดหวะใดต้องทำเรื่องอะไรบ้าง เพื่อให้เป็นจริงตามที่ลูกค้าพึงพอใจ
ความเป็นมาของหลักสูตร ฝึกอบรม
ในการขายที่พนักงานขายหลายคนมักใช้คำว่า นำลูกค้าเป็นศูนย์กลาง ที่เรียกว่า Customer Centric อาจไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับคนที่ทำงานขาย แต่ มีพนักงานขายจำนวนไม่มากที่ จะเข้าใจคำว่า Customer Centric อย่างจริงจัง ซึ่งสังเกตได้จากกระบวนการขายที่ไม่ตอบสนองต่อความพึงพอใจลูกค้า ทำให้ปิดการขายไม่ได้ พนักงานขายหลายคนมุ่งเน้นการสร้างสัมพันธ์ลูกค้า ซึ่งแนวคิดในการพัฒนาความสัมพันธ์ลูกค้า ด้วย การขายแบบให้คำปรึกษา มีเป้าหมายที่จะปิดการขายได้ไม่ใช่แนวคิดใหม่ของนักขายมืออาชีพ การนำความสัมพันธ์ลูกค้ามาเป็นกลยุทธ์หลัก มีความแตกต่างที่สำคัญจากกลยุทธ์การขายเชิงรุก
การนำความสัมพันธ์ลูกค้ามาเป็นกลยุทธ์หลัก พนักงานขายจะให้ความสำคัญของการสร้างความสัมพันธ์เพื่อเชื่อมต่อกับลูกค้าเพื่อการปิดการขาย สิ่งที่ลูกค้าสัมผัสได้คือการที่พนักงานขายจะให้ความสนใจคือ การสร้างสายสัมพันธ์เพื่อได้รับความไว้วางใจ และบรรลุข้อตกลง คือการปิดการขายในที่สุด
ในมุมมองของลูกค้าการสร้างสายสัมพันธ์ ยังเป็นเรื่องที่จำเป็นแต่ไม่เพียงพอต่อการขายในปัจจุบัน เพราะลูกค้าจะคิดเสมอว่าไม่ได้รับความจริงใจต่อพนักงานขาย เช่น เสียงพูดของลูกค้า “ฉันชอบพนักงานขายมาก” ไม่ใช่เหตุผลที่ดีพอที่ลูกค้าจะตัดสินใจซื้อสินค้าอีกต่อไป
ในความคิดของลูกค้า พนักงานขายเปลี่ยนจากตัวแทนฝ่ายขายไปเป็นที่ปรึกษาการขายที่เชื่อถือได้ มีโซลูชั่นที่จะตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า โดยให้คำปรึกษาที่เป็นคำแนะนำที่เป็นประโยชน์ให้ลูกค้าในสิ่งที่ลูกค้าจะได้ประโยชน์อะไรบ้างหลังการตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์หรือบริการ เพื่อแก้ปัญหาที่ลูกค้ามีเพื่อขจัดความท้าทายและต้องการบรรลุเป้าหมายทางธุรกิจของลูกค้า
การสร้างสัมพันธ์ที่ดีเป็นผลพลอยทำให้การนำเสนอเพื่อการขายแบบเชิงรุก เพื่อช่วยให้ลูกค้าบรรลุสิ่งที่ต้องการด้วยความพอใจ ทำให้พนักงานงานมีการขายที่เป็นบูรณาการ ทำให้ลูกค้าประทับใจและอยากกลับมาซื้อสินค้า
กลยุทธ์การขายเชิงรุกจะสะท้อนแนวทางปฏิบัติในการตัดสินใจซื้อของลูกค้า พนักงานขายมืออาชีพจะเข้าใจกระบวนการในการขาย เพื่อตอบสนองต่อขั้นตอนการซื้อของลูกค้า ทำให้การตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างเหมาะสม
หากพนักงานขายมุ่งมั่นต่อการนำเสนอขายผลิตภัณฑ์เพียงอย่างเดียว เพื่อให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อได้อย่างมั่นใจ พนักงานขายคนนั้นกำลังตัดสินใจผิด เพราะลูกค้าในปัจจุบันมีข้อมูลช่วยในการตัดสนิใจที่มาก พนักงานขายจึงจำเป็นต้องเข้าใจถึงคุณค่าที่ลูกค้าจะได้รับจากการใช้ผลิตภัณฑ์หรือบริการของพนักงานขาย
กรอบการสื่อสารเพื่อการขายแบบเห็นอกเห็นใจ หรือ Empathy Communication สามารถช่วยให้พนักงานขายเปลี่ยนจากการเสนอขายผลิตภัณฑ์แบบดั้งเดิมไปสู่การสื่อสารเพื่อการขาย ที่เน้นความท้าทายที่ปัญหาทางธุรกิจของลูกค้า ด้วยวิธีแก้ปัญหาที่จะได้รับจากโซลูชันของพนักงานขาย
การพัฒนาเครื่องมือในการขายที่เรียกว่า Sales Dynamic Analysis จะช่วยให้พนักงานขายสามารถเข้าใจในสิ่งที่ต้องทำในแต่ละขั้น เพื่อตอบสนองต่อคววามต้องการของลูกค้า ทำให้พนักงานขายติดตาม พฤติกรรม ความสนใจ ความชอบ และลูกค้าที่คล้ายกันของผู้ซื้อ นำวิเคราะห์เพื่อออกแบบกลยุทธ์การขายได้อย่างเหมาะสม เช่นการออกแบบบทสนทนากับลูกค้า การใช้เนื้อหา ที่เป็นประโยชน์ในแต่ละขั้นตอนการขาย ที่มีความแตกต่างกันตาม อุตสาหกรรมและปัญหาของลูกค้า
การออกแบบเนื้อหาเพื่อการนำเสนอการขาย เนื้อหาใดจำเป็น จะมีวิธีการสื่อสารอย่างไร ที่โดนใจผู้ซื้อ และการตอบสนองของลูกค้าในแต่ละขั้นตอนต่างๆ ของกระบวนการซื้อเป็นเช่นไร กลยุทธ์การขายเชิงรุกยังสามารถให้ข้อมูลเชิงลึกที่มีประโยชน์และน่าในใจให้ลูกค้า เพื่อให้การขายมีประสิทธิภาพที่คาดหวัง
หลักสูตร กลยุทธ์การขายเชิงรุก (Dynamics Selling Skills for Excellent Performance) เป็นหลักสูตรที่ถูกออกแบบมาเพื่อให้พนักขายทุกระดับ ถึง ผู้อำนวยการฝ่ายขาย เข้าใจถึงหลักของกลยุทธ์การขายเชิงรุก อย่างมืออาชีพ โดยมีเป้าหมายอยู่ที่ความพึงพอใจของลูกค้าลูกค้า สร้างความสำเร็จในงานขายด้วยรูปแบบของตนเอง โดยการใช้เครื่องมือเพื่อวิเคราะห์ลูกค้าเป้าหมาย นำมาสร้างเรื่องราวในการขาย
เครื่องมือในการขายที่เรียกว่า Sales Dynamic Analysis เป็นเครื่องมือในการช่วยในการวิเคราะห์โอกาสในการขาย ทำให้ได้เทคนิคการขายใหม่ๆ ที่จะขับเคลื่อนพนักงานขายให้มีความเป็นมืออาชีพ มั่นใจในวิธีการขาย มุ่งมั่นที่จะเรียนรู้ สร้างผลงานด้วยตนเอง เข้าใจถึงหลักการทำงานเชิงรุก และสามารถครองใจลูกค้า ซึ่งเป็นพื้นฐานของความสำเร็จระยะยาวของทุกองค์กร
ขั้นตอนการ ฝึกอบรมหลักสูตร กลยุทธ์การขายเชิงรุก (Dynamics Selling Skills for Excellent Performance) สั้น กระชับ ชัดเจน จับต้องได้ ตามแนวทางวิทยาศาสตร์การขาย และสามารถนำไปปฏิบัติได้จริงในการทำงาน ทำให้รูปแบบ แบบแผน และความเข้าใจในหลักการการขายในแบบของตนเองอย่างมืออาชีพ นำมาซึ่งการเพิ่มยอดขายและสร้างความมั่นคงยั่งยืนให้กับธุรกิจอย่างต่อเนื่อง
หลักสูตร ฝึกอบรม กลยุทธ์การขายเชิงรุก
Dynamics Selling Skills for Excellent Performance
วัตถุประสงค์
- พนักงานขายที่เข้าอบรม เห็นความสำคัญของอาชีพการขายที่มีต่ออค์กรในการสร้างความยั่งยนทางธุรกิจ
- พนักงานขาย มีทัศนคติต่อการขายเปลี่ยนไป ทำให้รู้สึกงานขายไม่ใช่เรื่องยากที่จะปิดการขาย
- พนักงานขาย ความเข้าใจในบทบาทและหน้าที่ของการทำงานขายเชิงรุก
- ข้าใจคำว่า “กลยุทธ์การขายเชิงรุก (Dynamics Selling Skills for Excellent Performance)” โดยใช้จิตวิทยาความพึงพอใจของลูกค้าเป็นที่ตั้ง เพื่อออกแบบขั้นตอนการขายที่ชัดเจน ทำให้ปิดการขายได้
- มีกลยุทธ์การขายที่ออกแบบสำหรับพนักงานขาย เพื่อตอบสนองในสถานการณ์การขายสินค้าที่แตกต่างกันออกไป ทำให้เพิ่มโอกาสในการปิดการขาย ได้ยอดขาย
- เครื่องมือในการขายที่เรียกว่า Dynamic Selling Analysis ทำให้ติดตามงานได้ง่ายขึ้น สร้างกลยุทธ์การขายเฉพาะที่มุ่งเน้นความความสัมพันธ์ลูกค้า นำมาซึ่งความสำเร็จในการปิดการขาย
- เข้าใจหลักการนำเสนอการขายด้วย Storytelling สำหรับกลยุทธ์การขายเชิงรุก เพื่อตอบสนองต่อจุดตัดสินใจของลูกค้า ที่องค์กรชั้นนำในประเทศนำมาใช้ในการฝึกพนักงานขาย
- มีจิตวิทยาการในการสื่อสารกับลูกค้าที่ไม่เทคนิคมากไป แต่จะเน้นการสื่อสารเพื่อการโน้มน้าวใจที่มีประสิทธิภาพ ทำให้เพิ่มโอกาสในการปิดการขายในทุกสถานการณ์
- นำงานจริงมาเพื่อใช้ในการวิเคราะห์และจัดการกลยุทธ์การขายเชิงรุก
ประโยชน์ที่ผู้บริหารจะได้รับจาก
หลักสูตร ฝึกอบรม กลยุทธ์การขายเชิงรุก
Dynamics Selling Skills for Excellent Performance
- มีขั้นตอนการกำหนดกลยุทธ์การขายเชิงรุกที่เป็นเครื่องมือ เพื่อมาวิเคราะห์สภาพปัญหาและจิตวิทยาลูกค้า เพื่อปิดจุดอ่อนในการขาย จุดที่ตนเองทำได้ดี และจุดใดต้องปรับปรุงเพื่อพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทำให้พลาดโอกาสในการขายน้อยลง
- เข้าใจองค์ประกอบสำคัญในแต่ละขั้นตอนการนำกลยุทธ์การขายขายเชิงรุก สำหรับพนักงานขายเชิงรุก มาใช้ในการวางแผนการขาย อยางมืออาชีพ
- พัฒนากลยุทธ์การขายเชิงรุก แนวคิดและเทคนิคการขายเชิงรุก ที่เน้นความพึงพอใจลูกค้า ที่มีความรวดเร็ว ตอบสนองลูกค้าที่ชัดเจน ซึ่งส่งผลต่อการปิดการขาย
- พัฒนากลยุทธ์การขายเชิงรุก ที่ต้องใช้ในการขาย ตั้งแต่การติดต่อ การหาข้อมูล Storytelling การนำเสนอ การแก้ข้อมูลโต้แย้งและปิดการขาย ทำให้มีการวางกลยุทธ์การขายเชิงรุกล่วงหน้า
- มุ่งเน้น 3 ทักษะการขายหลัก ที่จะทำให้การขายได้ราคาที่ดี ไม่แข่งขันด้านราคา ได้แก่การเจรจาต่อรอง การโน้มน้าวใจและการนำเสนอ
- ปลุกพลังพนักงานขายให้มีการคิดที่เป็นบวก ไม่กลัวปัญหา เมื่อลูกค้าปฏิเสธ ด้วยการแก้คำปฏิเสธให้เป็นโอกาสในการปิดการขายจากกลยุทธ์การขายเชิงรุก
- สร้างวัฒนธรรมใหม่ให้พนักงานขาย ทำให้ทุกคนในทีมขาย มีกระบวนการสื่อสารไปในทิศทางเดียวกัน ทำให้เกิดการช่วยกันในการแก้ปัญหา และหาวิธีการใหม่ๆ ในการปิดการขาย
- มีวิธีในการวางกลยุทธ์การขายเชิงรุก ที่แตกต่าง เด่นชัดและได้ผล ตอบโจทย์ความพึงพอใจของลูกค้า ด้วยการดึงศักยภาพของพนักงานขายมาใช้ให้เกิดประโยชน์ในการขาย
- นำไปการวางกลยุทธ์การขายเชิงรุกไปประยุกต์ เพื่อไปใช้ในการขายจริง
โมดูลที่1: วิเคราะห์สถานการณ์การขายและเป้าหมายการขายยุคใหม่
- วิเคราะห์แรงกดดันทางธุรกิจใหม่ สถานการณ์การขายที่ทำให้ผู้ขายต้องปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การขาย
- ดัชนีชี้วัดและเป้าหมายสูงสุดของการขาย ของพนักงานขาย
- แนวคิดเรื่องการขายเชิงรุก เพื่อสร้างความสำเร็จในการขาย
- เปลี่ยนแนวการขายให้เป็น นักขายสายเหยี่ยว
- คุณลักษณะของ “นักขายสายเหยี่ยว” VS “นักขายสายพิราบ”
โมดูลที่2: วิเคราะห์ลูกค้า สถานการณ์ความเป็นจริงของลูกค้า
- สถานการณ์และความท้าทายของลูกค้ากำลังเผชิญ และการตอบสนองลูกค้า
- วิเคราะห์โอกาสและอุปสรรคและแนวโน้มทางธุรกิจ เพื่อเข้าถึงความต้องการลูกค้า
- วิเคราะห์กระบวนการการตัดสินใจของลูกค้าในการซื้อสินค้า
โมดูลที่3: วิเคราะห์การขายที่ซับซ้อน
- ความหมายของคำว่า “การขายที่ซับซ้อน”
- วิเคราะห์จิตวิทยากระบวนการการตัดสินใจของลูกค้า เมื่อต้องการซื้อสินค้า
- วิเคราะห์จิตวิทยา และอารมณ์การซื้อของลูกค้า ในแบบต่างๆ เพื่อเข้าถึงความต้องการที่แท้จริง
- ปลดล็อคความซับซ้อนในการขาย เพื่อค้นหาลูกค้าที่ใช่ ทำให้ได้ออร์เดอร์
- การวิเคราะห์ลูกค้า จากมุมมองของลูกค้าที่มีต่อพนักงานขาย เพื่อสร้างความพอใจในการตัดสินใจซื้อ
โมดูลที่4: คุณลักษณะของลูกค้าในแต่ละประเภท เพื่อสร้างการสร้างสัมพันธ์อย่างแท้จริง
- คุณลักษณะลูกค้าในแต่ละประเภท VS พนักงานขายในแต่ละประเภท
- การค้นหาจุดอ่อนลูกค้า เพื่อการหาจุดเชื่อมสัมพันธ์ที่ตอบโจทย์การขาย
- วิเคราะห์สิ่งที่ลูกค้าชอบ พนักงานขายที่ลูกค้าบอกใช่ สำหรับลูกค้าที่แตกต่างกัน
- เทคนิคการสื่อสารเพื่อการขายกับลูกค้าในแต่ละประเภท
โมดูลที่5:การจัดโครงสร้างเพื่อการตอบสนองต่อความพึงพอใจลูกค้า
- แนวคิดเรื่องการปิดการขายแบบไม่ต้องปิดการขาย ได้ออร์เดอร์ ชัวร์
- วิเคราะห์โครงสร้างการสมัยใหม่ ที่ตอบสนองต่อความพึงพอใจให้ลูกค้า
- ขั้นตอนการขายและวิเคราะห์หัวใจความสำเร็จในแต่ละขั้นตอนเพื่อสร้างความประทับใจให้ลูกค้า
- การจัดรูปแบบการขายตามโครงสร้างในหลากหลายรูปแบบที่เหมาะกับลูกค้าในแต่ละประเภท
โมดูลที่6:การเปิดการขายให้ลูกค้ายินดีที่จะคุยต่อ
- ความสำคัญในการสร้างสัมพันธ์ที่ดีต่อลูกค้า
- หัวใจหลักในการสร้างสัมพันธ์ที่ดีต่อลูกค้า ทำง่ายได้ใจลูกค้าแน่นอน
- องค์ประกอบในการติดต่อลูกค้า การเชื่อมสัมพันธ์และการสร้างความน่าเชื่อถือ
- กระบวนการสร้างมิตรภาพและความประทับใจในการติดต่อ
โมดูลที่7:การเปิดใจลูกค้า เพื่อค้นหาความท้าทายที่ลูกค้ามี
- ความสำคัญในการเปิดใจลูกค้า เพื่อการสร้างโอกาสนในการปิดการขาย
- เทคนิคการเปิดใจลูกค้า เพื่อค้นหาความคิดที่ลูกค้าต้องการ
- กระบวนการในการเปิดใจแบบเนียน ๆ ทำให้ลูกค้ายินดีที่จะเปิดใจ
- เทคนิคการเปิดใจลูกค้าให้ตรงกับคุณลักาณะของลูกค้าแต่ละประเภท
โมดูลที่8: การนำเสนอด้วยเล่าเรื่องในรูปแบบ Storytelling
- การนำเสนอเพื่อการเชื่อมโยงในการปิดการขาย
- ประเด็นการนำเสนอเพื่อการสร้างเรื่องราว นำสู่การปิดการขาย
- องค์ประกอบที่สำคัญในการนำเสนอในรูปแบบ Storytelling เพื่อสร้างความได้เปรียบในการขาย
- สิ่งที่ควรทำ สิ่งที่ไม่ควรทำ เมื่อต้องนำเสนอสินค้าให้ลูกค้า ที่มีเป้าหมายในการปิดการขาย
โมดูลที่9: การแก้ข้อโต้แย้ง การเจรจาต่อรอง เพื่อเตรียมพร้อมในการปิดการขาย
- ข้อเท็จจริงในการโต้แย้งจากลูกค้า สาเหตุที่ลูกค้าโต้แย้ง ทั้ง ๆ ที่สินค้าดี
- รูปแบบการโต้งแย้งในลักษณะต่าง ๆ ทำให้เข้าใจผิดคิดว่าลูกค้าปฏิเสธการซื้อ
- การแก้ข้อโต้แย้งในรูปแบบต่าง ๆ และการสร้างธนาคารการโต้แย้งอย่างมืออาชีพ
- ขั้นตอนการตอบสนองต่อการโต้แย้ง จังหวะ โอกาสและรูปแบบที่ต้องนำมาใช้
โมดูลที่10: การปิดการขาย อย่างนักขายมืออาชีพ
- วิเคราะห์สาเหตุที่ลูกค้าปฏิเสธการซื้อหรือไม่ตอบรับการนำเสนอขายของผู้ขาย
- วิเคราะห์ รูปแบบการสนทนาเพื่อให้ลูกค้าตอบตกลง “ซื้อ
- รูปแบบในการการปฏิเสธจากลูกค้า และแนวทางในการแก้ไข หาทางออก
- เทคนิคการวิเคราะห์สัญญาณการซื้อเพื่อนำสู่การปิดการขาย
- สาเหตุที่ลูกค้าจะตอบ “ใช่” ต่อการปิดการขายของพนักงานขาย
หมายเหตุ: ในแต่ละโมดูลจะมี กรณีศึกษา เล่นบทบามสมมุติ ประชุมกลุ่ม ระดมสมอง ชมวีดีทัศน์ จัดทำ Work Shop ประชุมกลุ่ม
วิธีการฝึกอบรม ตามความเหมาะสมของสมอง Brain Base Learning
Group Discussion
Role Play in Real Situation
Individual Assignment
Case Study
Presentation & Feedback
Coaching
Attitude Changing
Creative Thinking