14.เรียนรู้ เทคนิคการทำงานเป็นทีม แบบองค์รวม ทำให้เข้าาใจรายละเอียดในการบริหารจัดการทีมได้ดียิ่งขึ้น

15.มีการให้และรับในการทำงานร่วมกับคนอื่น ทำให้รู้สึกว่าการทำงานเป็นทีม ต้องมีการแบ่งปันเป็นอย่างมาก แต่ดี มาก คะ เนื้อหา การทำงานเป็นทีม นำไปใช้ที่ทำงานได้เยอะมาก

16.ได้รับเทคนิคการสื่อสารเพื่อการโน้มน้าวใจ นำมาใช้ในการทำงานร่วมกับผู้อื่น ทำให้คนอื่นอยากช่วยงาน พร้อมใจกันทำงานเป็นทีม

17.ดร.สุรชัย โฆษิตบวรชัย มีวิธีการสอนที่ทำให้ สนุก ไม่น่าเบื่อ และเข้าใจง่าย เนื้อหาไม่ซับซ้อน แต่การสอนทำให้เห็นความสำคัญในการทำงานเป็นทีม ดีคะ

18.มีขั้นตอนการ ทำงานเป็นทีม ในทุกระดับขั้น ขององค์กร ทุกคนต้องเข้าใจที่จะอยู่ร่วมกับคนอื่นได้เป็นอย่างดี

19.เข้าใจเทคนิคโครงสร้างการบริหาร  แบบเป็นขั้นเป็นตอน  ทำงานเป็นทีม ไม่ยากอย่างที่คิด แต่ดีมากคะ

20.มีหลักในการบริหารอารมณ์ ตนเองเมื่อต้องทำงานร่วมกับคนอื่น ไม่ใช้อารมณ์ในการทำงาน เมื่อต้องทำงานร่วมกับคนอื่น

21. เป็นการอบรมที่ผู้เรียน ทุกคน พร้อมใจกัน คิด พร้อมใจกัยชนทำงานกลุ่มเป็นทีมงาน ที่ไม่น่าเบื่อเลย การอบรมมีกิจกรรม เพื่อให้เข้าใจ หลักการทำงานเป็นทีม ครับ

22.การทำงานเป็นทีม เป็นเรื่องของทุกคนในองค์กร ถ้าเข้าใจขั้นตอนการ ทำงานร่วมกับคนอื่น ในลักษณะเป็น Teamwork งานที่ว่ายาก ก็จะเสร็จได้ ทำได้ด้วยทีมงาน ได้ข้อคิด ไปปรับใช้ ดีมาก ๆ คะ

23.นำไปสร้างแรงจูงใจ ให้เพื่อนร่วมงาน มีแรงกระตุ้น ไม่เหนื่อยต่อการทำงานที่ยาก การทำงานที่ยากไม่ใช่เรื่องน่ากลัว อีกต่อไป

24.มีการยืดหยุ่น ต่อสถานการณ์การในการทำงานร่วมกัน  เป็นพื้นฐานการเข้าใจคนอื่น ในการทำงานเป็นทีมที่ทำให้งานได้ดี

25.ได้ทราบเทคนิคการสื่อสารภายในองค์กร การโน้มน้าวใจ เพื่อทำให้ทุกคนพร้อมจะช่วยเหลือในทีมงาน

26. วิทยากร เก่งเรื่องการทำงานเป็นทีมมาก ๆ เพราะมีประสบการณ์ในการเป็นผู้บริหารมาก่อน ทำให้วิเคราะห์ ทีมงานได้ดีมาก ๆ   ทำให้เข้าใจง่าย

การทำงานเป็นทีมเป็นสิ่งสำคัญในโลกธุรกิจปัจจุบัน ถือเป็นองค์ประกอบสำคัญขององค์กรที่ประสบความสำเร็จ การทำงานเป็นทีมอย่างมีประสิทธิผลไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ แต่ต้องมีทักษะในการแก้ปัญหา การตัดสินใจ การสื่อสาร และทักษะในการเข้ากับผู้อื่นที่ดี แนวคิดเรื่อง หลักสูตร ทักษะการทำงานเป็นทีม  เพื่อผลงานที่ดีเลิศ จึงถูกออกแบบเพื่อให้ผู้เรยนเข้าใจกลไกการพัฒนา การทำงานเป็นทีมภายในองค์กรของตนเอง

เป็นที่เข้าใจว่าการทำงานเป็นทีมต้องการทักษะที่ทำคัญคือ ทักษะทางสังคมเฉพาะตัวที่ทุกคน ซึ่งเป็นพื้นฐานการทำงานเป็นทีม ซึ่งทักษะการทำงานเป็นทีม ไม่สามารถมีได้ง่ายๆ สมาชิกต้องแสดงความคิดเห็น จัดการกับบุคลิกที่หลากหลาย และทำงานฝ่าฟันความแตกต่าง สมาชิกในทีมแต่ละคนต้องรับผิดชอบในการส่งมอบผลลัพธ์ที่ดีให้กับทีมงาน

เนื้อหาในการเรียนจะเน้น คนในทีมรู้ว่าพวกเขาต้องพึ่งพากันและกัน เข้าใจว่าเป้าหมายส่วนตัวและเป้าหมายของทีมมีความสำคัญ เมื่อตระหนักถึงสิ่งนี้ เวลาและความพยายามจะไม่สูญเปล่าไปกับการทะเลาะเบาะแว้งและแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัวโดยไม่คำนึงถึงผู้อื่น

เมื่อแต่ละคนทำงานเป็นส่วนหนึ่งของทีม พวกเขาจะทำงานภายใต้บรรยากาศของความไว้วางใจและได้รับการสนับสนุนให้แสดงออกอย่างเปิดเผย สภาพแวดล้อมประเภทนี้ส่งเสริมให้สมาชิกในทีมถามคำถาม หยิบยกปัญหาขึ้นมา ไม่เห็นด้วย และมีความคิดสร้างสรรค์มากขึ้นในการแก้ปัญหา

สมาชิกในทีมรู้สึกเป็นเจ้าของงานและทีมของตนเอง เพราะพวกเขาได้ลงทุนส่วนตัวกับทีม พวกเขามุ่งเน้นที่ความสำเร็จเพื่อทีมมากกว่าการเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม

ทีมสนับสนุนให้สมาชิกแต่ละคนใช้พรสวรรค์และความรู้ของตนเองเพื่อวัตถุประสงค์ของทีม ดังนั้น สมาชิกจึงมีส่วนสนับสนุนต่อความสำเร็จขององค์กร

สมาชิกในทีมทุกคนฝึกฝนการสื่อสารแบบเปิดกว้างซึ่งกันและกัน พวกเขามั่นใจว่าเข้าใจกัน ซึ่งจะช่วยส่งเสริมบรรยากาศของความไว้วางใจระหว่างสมาชิกในทีม
ทีมที่ดีจะสนับสนุนให้สมาชิกเรียนรู้จากงานและพัฒนาทักษะใหม่ๆ ทีมจะสนับสนุนสมาชิกที่ต้องการเรียนรู้และทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น พวกเขายอมรับว่าอาจมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นระหว่างทางแต่ก็ยอมรับที่จะเรียนรู้

การตัดสินใจเกี่ยวข้องกับทีมทั้งหมด โดยใช้ความรู้และประสบการณ์เฉพาะตัวของสมาชิกแต่ละคนเป็นฐาน อย่างไรก็ตาม พวกเขาเข้าใจว่าหัวหน้าทีมจะเป็นผู้ตัดสินหากพวกเขาไม่สามารถหาทางแก้ไขได้

ทีมที่ดีจะแก้ไขข้อขัดแย้งได้อย่างรวดเร็วและสร้างสรรค์ สมาชิกในทีมรู้สึกสบายใจที่จะเปิดใจต่อกันและสื่อสารกันอย่างอิสระ

หลักสูตร ทักษะการทำงานเป็นทีม เพื่อผลงานที่ดีเลิศ

How to Build Up Effective Teamwork for Excellent Performance

หมายเหตุ: วิทยากรเป็นนักเรียนทุนด้าน “การเป็นวิทยากร (ผู้สอน) ด้านการบริหารจัดการ MTP: Management Training Program” จากรัฐบาลญี่ปุ่น โดยไปศึกษาเรื่องบริหารจัดการจากประเทศญี่ปุ่น นำมาเป็นแนวทางในการออกแบบหลักสูตร ภาวะผู้นำ สำหรับพนักงานใหม่

ความท้าทายใน การทำงานเป็นทีม เพื่อผลงานที่ดีเลิศ

เป็นปัญหาสำหรับ ผู้นำ ผู้จัดการและผู้บริหาร เมื่อต้องบริหารทีมงาน ให้ทำงานตามที่ต้องการ  เพราะทีมงานคือการที่พนักงานหลายคน มารวมตัวกัน ทำสิ่งหนึ่งสิ่งใด ซึ่งการรวมตัวกันเป็นทีม ให้มีการทำงานเป็นทีม ย่อมเกิดความท้าทาย ที่ผู้นำ ผู้จัดการอัจฉริยะ และ ผู้บริหาร 360 องศา ต้องจัดการให้เรียยร้อม ไม่เช่นนั้น การทำงานย่อมมีปัญหาและอุปสรรค ไม่สามารถนำพา ทีมงานให้บรรลุเป้าหมายที่วางไว้ได้ ใน การทำงานเป็นทีม จำเป็นต้องเข้าใจสภาพแวดล้อมต่าง ๆ เพื่อแก้ไขความขัดแย้งหรือปัญหาใดๆ จะเป็นประโยชน์หากเข้าใจความท้าทาย ใน การทำงานเป็นทีม ซึ่งความท้าทายในการทำงานเป็นทีมที่พบบ่อยมีดังนี้:

1.การทำงานเป็นทีม ที่ขาดความชัดเจน

เมื่อพนักงานทำงานร่วมกันเป็นทีม สิ่งสำคัญคือพวกเขาต้องเข้าใจว่า ผู้จัดการ ผู้นำ คาดหวังอะไร เพื่อที่พวกเขาจะเตรียมพร้อมอย่างเต็มที่เพื่อส่งมอบผลลัพธ์ที่น่าพอใจ เมื่อ การทำงานเป็นทีม แต่พนักงานไม่ทราบว่าเป้าหมายของคืออะไร อาจนำไปสู่การทำงานที่ไม่มีประสิทธิภาพเนื่องจากขาดสมาธิหรือจากการทำงานที่ไม่สอดคล้องกับเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ของ การทำงานเป็นทีม

2.การทำงานเป็นทีม ที่ขาดความไว้วางใจ

การสร้างความไว้วางใจระหว่างเพื่อนร่วมงานเป็นพื้นฐานสำคัญของการทำงานเป็นทีม เพราะความไว้วางใจช่วยให้พนักงานในทีม อยู่ร่วมกัน ทำงานร่วมกันหรือขอความช่วยเหลือหรือเสนอความช่วยเหลือให้ผู้อื่นได้อย่างเต็มใจ ซึ่งจะช่วยให้ทุกคนในทีมสามารถแก้ไขปัญหาได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

3.ความขัดแย้งทางบุคลิกภาพ ทำให้ การทำงานเป็นทีม มีปัญหา

เป็นเรื่องปกติของ การทำงานเป็นทีม ที่บุคคลทุกคนต่างก็มีความชอบและบุคลิกภาพเป็นของตัวเอง และบางครั้งอาจนำไปสู่สถานการณ์ที่พนักงานสองคนมีแนวโน้มที่จะไม่เห็นด้วย ซึ่งอาจส่งผลให้ขวัญกำลังใจลดลงหรือความร่วมมือไม่ดี จึงเป็นความท้าทายที่ ผู้จัดการ ผู้นำ ต้องเร่งจัดการทีมงานให้ทำงานร่วมกันได้เป็นอย่างดี

4.การไม่แบ่งปันข้อมูล

ข้อมูลที่ต้องใช้ร่วมกัน เป็นหัวใจสำคัญของ การทำงานเป็นทีม  การแบ่งปันข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการทำงานจะช่วยให้ การทำงงานเป็นทีมประสบความสำเร็จ ดังนั้นเมื่อพนักงานหนึ่งคนหรือมากกว่านั้น ไม่แบ่งปันข้อมูล เก็บข้อมูลไว้ม่บอกเพื่อนร่วมงาน จะส่งผลเสียต่อประสิทธิภาพการทำงานเป็นทีม เมื่อพนักงานต้องทำงานร่วมกันแต่ไม่มีข้อมูลครบถ้วน อาจพลาดโอกาสอย่างน่าเสียดาย

5.การทำงานเป็นทีม แบบไม่มีการสื่อสารที่ดี

พื้นฐานสำคัญของการทำงานร่วมกัน ในลักษณะการทำงานเป็นทีม คือการการสื่อสารแบบเปิด หรือการสื่อสารสองทาง เพื่อทำให้พนกงานในทีมเข้าใจกันในการทำงาน ว่าความคาดหวังทีทแจริงคืออะไร ความท้าทายในการทำงานเป็นทีม คือการให้พนักงานมีวิธีการสื่อสารและประสานงานกันหลายวิธี นอกจากการส่งเสริมการสื่อสารระหว่างพนักงานแล้ว การจัดประชุม พูดคุยหรือขอคำปรึกษานั่นเอง

6.การไม่มีส่วนร่วมในกิจกรรม ของการทำงานเป็นทีม

พนักงานหลายคน อาจมีทัศนคติที่ไม่ดี ทำให้ไม่อยากทำงานร่วมกับคนอื่น ทำให้การทำงานเป็นทีมเป็นปัญหา เพราะการเข้าร่วมกิจกรรมในการทำงานเป็นทีม จะเป็นแนวโน้มที่จะสร้างผลลัพธ์เชิงบวกได้มากกว่า ทำให้การทำงานมีความกระตือรือร้น ซึ่งจะช่วยเพิ่มทั้งปริมาณและคุณภาพของผลงานได้ เมื่อพนักงานการไม่มีส่วนร่วมในกิจกรรม  ก็ส่งผลให้ประสิทธิภาพการทำงานลดลง

หลักการและเหตุผล ของ หลักสูตร ทักษะการทำงานเป็นทีม เพื่อผลงานที่ดีเลิศ

องค์ประกอบที่สำคัญของการทำงาน คือการที่มีคนหลายคนมาอยู่รวมกัน ช่วยกันทำงานให้เกิดความก้าวหน้า ซึ่งในทางปฏิบัติกลายเป็นเรื่องยากที่จะให้ทุกคนที่ทำงานร่วมกันมีแนวคิดที่ไปด้วยกัน

ในความจริงนั้น คนทุกคนในการทำงานมีพื้นความคิดประสบการณ์ ความรู้ ความเข้าใจทีแตกต่างกันออกไป ซึ่งสิ่งเหล่านี้ทำให้พนักงานมีศักยภาพ มีความรู้ ความเข้าใจ ในการทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ จนสามารถนำไปปฏิบัติได้ในการทำงาน หรือในทางกลับกัน อาจจะเป็นตัวทำลายทำให้งานสะดุด ไม่ก้าวหน้า

ซึ่ง การทำงานเป็นทีม คือ พนักงานมากกว่า 1 คน ต้องมาทำงานร่วมกัย เรียกว่ากลุ่มคนทำงานเพื่อบรรลุเป้าหมายหรือจุดประสงค์ร่วมกัน

ในหลักการดังกล่าว ถ้าหากทุกคนเต็มใจและตั้งใจให้ความสำคัญกับผลประโยชน์และวัตถุประสงค์ของทีมเป็นอันดับแรก งานก็จะประสบความสำเร็จมากขึ้น ผลลัพธ์ที่ได้อาจส่งผลกระทบอย่างมาก

การสร้างทีมเกี่ยวข้องกับการนำผู้คนมารวมกัน ในขณะที่การทำงานเป็นทีม คือ การให้ผู้คนเหล่านั้นใช้ความสามารถได้อย่างเต็มที่ ด้วยค่านิยม และความเชื่อที่แตกต่างกัน มารวมกัน เพื่อบรรลุสิ่งที่พวกเขาอาจทำคนเดียวไม่ได้ ความสามัคคีเป็นรากฐานของการทำงานเป็นทีมที่มีประสิทธิภาพ นำไปสู่ความคิดสร้างสรรค์และผลผลิตที่มากขึ้นในที่ทำงาน และทีมงานที่มีความสุขและมีสุขภาพดีขึ้น

การทำงานเป็นทีมมีความสำคัญเพราะช่วยส่งเสริมสภาพแวดล้อมการทำงานเชิงบวกที่พนักงานสามารถบรรลุโอกาสและเอาชนะอุปสรรคได้มากขึ้น ธุรกิจและองค์กรต่างๆ จำเป็นต้องทำงานเป็นทีมมากที่สุดเมื่อโครงการนั้นมีเวลาจำกัดและต้องการทักษะและประสบการณ์ที่หลากหลาย

ในกรณีที่ดีที่สุด การทำงานเป็นทีมจะทำให้สามารถทำงานที่ซับซ้อนได้รวดเร็วขึ้น บรรลุมาตรฐานใหม่ ขยายชุดทักษะทางวิชาชีพ และเปลี่ยนแปลงวิถีแห่งประวัติศาสตร์ การรวมการทำงานเป็นทีมเข้าด้วยกันสามารถทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่คล่องตัวและยั่งยืนได้

ดังนั้นการพัฒนา การทำงานเป็นทีม เพื่อนำทีมไปพัฒนาองค์กรที่สำคัญ ด้วยการพัฒนาพัฒนาให้มีแนวคิดในการทำงานเป็นทีม มีความเข้าใจที่ไปในทิศทางเดียวกัน ทำให้ทุกต้องการที่จะช่วยเหลือซึ่งกันและกัน บนพื้นฐานของความคิดที่แตกต่างกันออกไป

ซึ่งการพัฒนาทักษะการทำงานร่วมกันดังกล่าวจะอยู่บนพื้นฐานของการพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ ความเข้าใจร่วมกัน เพื่อทำให้เกิดทักษะ ความชำนาญ และ ทัศนคติ ที่ดีในการทำงานร่วมกับผู้อื่น ด้วย เทคนิคการสื่อสารชั้นสูง จนกระทั่งเกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมเพื่อสร้างผลสำเร็จของตนเองและของทีมงาน

ซึ่งแนวทางการพัฒนาการทำงานเป็นทีม จะส่งผลทั้งในปัจจุบันและอนาคตของบุคลากรคนนั้นๆ ซึ่งจะส่งผลต่อความสำเร็จขององค์กร ซึ่งมี 10 ปัจจัยหลักของการพัฒนาทักษะในการทำงานเป็นทีม ดังต่อไปนี้

• ความสามารถที่จะบริหารตนเองเพื่อให้ทำงานร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
• มีความชัดเจนในคุณค่าของตนเองและทีมงาน ทำให้ทำงานร่วมกันได้เป็นอย่างดี
• มีวัตถุประสงค์ของทีมงานที่มีความชัดเจน ทำให้ทุกคนมองไปในทางเดียวกัน
• มุ่งเน้นความต้องการให้ทีมมีความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง
• ทักษะในการวิเคราะห์แก้ไขปัญหาร่วมกันในทีม ทำให้มองปัญหาเป็นเรื่องไม่น่ากลัว
• ความสามารถในความคิดสร้างสรรค์และริเริ่มสร้างสรรค์ในทีมงาน สร้างสิ่งใหม่ ๆ
• มีความมุ่งมั่นที่จะบรรลุเป้าหมายให้กับทีมงาน
• การฟังและการสื่อสาร สร้างความเคารพซึ่งกันและกัน
• การทำงานร่วมกัน ช่วยกัน สร้างประสิทธิภาพในการทำงาน
• การพัฒนาแรงจูงใจสมาชิกในทีมงานให้ร่วมกันเป็นหนึ่งเดียว

แนวคิดในการพัฒนาหลักสูตร

ในการพัฒนาทักษะการทำงานเป็นทีมนั้น มุ่งเน้น 3 ขั้นตอนหลัก ๆ ของกระบวนการ ที่จะทำให้ผู้เข้าอบรมสามารถที่จะทำงานร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ได้แก่

+ ขั้นที่ 1: เข้าใจตนเองและเข้าใจทีมงาน เข้าในสภาวะแวดล้อม
+ ขั้นที่ 2: เป้าหมายของทีมงาน มองไปในทิศทางเดียวกัน
+ ขั้นที่ 3: ปิดช่องว่าง หรือความไม่เข้าใจในการทำงานร่วมกัน

องค์ประกอบของการสร้างทีมงานนั้นมีกระบวนการและขั้นตอนที่ชัดเจน ซึ่งขั้นตอนเหล่านี้จะต้องถูกหล่อหลอมให้ทุกคนในทีมงานเข้าใจไปในทิศทางเดียวกัน คิดเหมือนกัน ทำเหมือนกัน เพื่อผลผลิตที่ได้มาจะเป็นผลผลิตที่ยิ่งใหญ่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งขั้นตอนในการพัฒนาทีมงานมีดังต่อไปนี้

1. สร้างสมดุลของการทำงานร่วมกันในฐานะที่เป็นทีม ซึ่งต้องมีความสมดุลทั้งทักษะ ความสามารถ ความปรารถนาที่จะก้าวหน้า
2. ความชัดเจนของวัตถุประสงค์และการกำหนดเป้าหมายร่วมกัน ทุกคนในทีมต้องมีมุมมองไปในทิศทางเดียวกัน คือมีเป้าหมายที่ขัดเจน อธิบายได้ถึงความต้องการของทีมว่าเป็นเช่นไร
3. การเปิดใจและการเผชิญหน้า ต้องมีความจริงใจที่จะหารือกันทั้ง ๆ ที่มีความคิดเห็นที่เหมือนกันหรือแตกต่างกันออกไป
4. การสนับสนุนและการสร้างความไว้วางใจ ต้องสร้างความเชื่อมั่นให้ทุกคนในทีมงานถึงความสามารถที่จะดำเนินการตามที่เป้าหมายที่วางไว้
5. การประสานงานและการบริหารข้อขัดแย้ง ต้องมีความให้ความช่วยเหลือกันในทีมงาน ไม่เกี่ยงงานกันไม่ขัดแย้งกันโดยมีการบริหารข้อขัดแย้งในการทำงานร่วมกัน
6. กระบวนการและขั้นตอนการทำงานร่วมกัน มีระบบรองรับในการทำงานร่วมกัน สามารถที่จะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ทุกคนเข้าใจถึงขั้นตอนที่ต้องทำ
7. การเลือกและการวางบทบาทของผู้นำที่เหมาะสม การคัดเลือกผู้นำ โดยเกณฑ์ของทีมงานที่ได้วางไว้ ทำให้ได้ผู้นำที่มีความรู้ ความสามารถที่ดีในการบริหารจัดการทีมงาน
8. ประเมินสถานการณ์ต่อเนื่อง ในการทำงานร่วมกัน ต้องมีการประเมินสถานการณ์อย่างต่อเนื่องเพื่อทำให้เข้าใจสถานการณ์อย่างแท้จริง และสามารถที่จะแก้ไขได้ทันท่งที
9. การพัฒนาทักษะ ความเชื่อมั่น รายบุคคล การปรับฐานความรู้เพื่อไม่ให้มีความแตกต่างในทีมงานเป็นเรื่องที่สำคัญ จึงต้องมีกระบวนการในการพัฒนาพนักงานรายบุคคลเพื่อลดช่องว่างของการทำงานร่วมกัน
10. การพัฒนาสายสัมพันธ์ในทีมงาน การสร้างสัมพันธ์ที่ดีขององค์กรต้องมีการกระทำอย่างต่อเนื่องทำให้ทุกคนในทีมงานมีความรู้สึกว่าตนเองเป็นเสมือนสมาชิกในทีมงาน
11. การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ เป็นกลจักรที่สำคัญในการสื่อสาร ตั้งแต่ระดับหัวหน้ากับพนักงาน หรือ พนักงานกับพนักงาน หรือพนักงานกับหัวหน้า หรือ การสื่อสารกับบุคลนอกองค์กร