14.ได้เรียนรู้มารยาทในการวางตัว การพัฒนาบุคลิกภาพที่ดูกต้อง จะนำไปใช้ในการเล่าเรื่อง Stroytelling และ การปิดการขายในการทำงาน

15.มองเทคนิคการใช้ การสื่อสารเพื่อการโน้มน้าวใจ และ ภาษากายที่ถูกต้อง การวางตัว การสร้างความประทับใจ เมื่อเข้าพบลูกค้า

16.ได้เทคนิคการนำเสนอและการเล่าเรื่อง Strotyelling เพื่อ การปิดการขาย และแนวทางการนำเสนอใหม่ ๆ

17.นำประสบการณ์ที่วิทยากรเล่าให้ฟัง ไปปรับใช้ในการพัฒนาบุคลิกภาพ และการสื่อสารเพื่อความเป็นเลิศ

18.ได้ความคิดการพัฒนาบุคลิกภาพ และการสื่อสารที่เป็นขั้นเป็นตอน จัดระบบความคิดได้ดียิ่งขึ้น

19.มีมุมมองต่อการพัฒนาบุคลิกภาพได้ดียิ่งขึ้น มั่นใจที่ต้องไปพบกับคนที่ไม่รู้จัก แต่ก็มีหลักในการปรับบุคลิกภาพให้สอดคล้องต่อคนที่พบ

20.กล้าพูด กล้านำเสนอ กล้าวางตัวให้คนอื่นประทับใจได้อย่างถูกวิธี

21.มีแผนและเป้าหมายการสื่อสารที่ชัดเจนในการพัฒนาบุคลิกภาพและการสื่อสาร ในอนาคต

22.เข้าใจขั้นตอนการพัฒนาบุคลิกภาพที่เป็นระบบ ทำให้ควบคุมสถานการณ์เมื่อตื่นเต้นได้เป็นอย่างดี

23.มีกำลังใจ เห็นโอกาส ในการพัฒนาตนเองเพื่อให้ประสบความสำเร็จในการทำงาน

24.ไม่กลัวการเข้าหาคนอื่น ถึงแม้สถานการณ์การที่น่าตื่นเต้น หรือได้รับแรงกดดันจากลูกค้า ทำให้แก้สถานการณ์ได้เป็นอย่างดี

25.นำไปพัฒนาภาวะผู้นำในตนเอง จากการพัฒนาบุคลิกภาพ ทำให้มั่นใจในการทำงาน

เนื้อหาการ ฝึกอบรม การพัฒนาบุคลิกภาพและการสื่อสาร ขะทำให้คนเรียนเห็นความสำคัญของการพัฒนาบุคลิกภาพ และการสื่อสาร เพราะจะส่งผลถึงความสำเร็จในการทำงาน รวมถึงวิธีที่ต้องตอบสนองต่อข้อมูลต่าง ๆ ด้วย รูปแบบการสื่อสาร ที่ทำให้คนอื่นประทับใจ

การฝึกอบรม การพัฒนาบุคลิกภาพและการสื่อสารกับผู้คน จะสามารถ สื่อสารในฐานะที่เป็นผู้นำ ทีม และเพื่อนร่วมงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นเท่านั้น

ด้วยเหตุนี้จึงเป็นเรื่องสำคัญ ที่พนักงานทุกคนต้องเข้าใจการพัฒนาบุคลิกภาพและการสื่อสาร ของตนเอง เพื่อพัฒนาความสัมพันธ์ที่ดีขึ้น และสร้างสภาพแวดล้อมในการทำงานแบบอบอุ่น เป็นมิตรและเป็นหนึ่งเดียวกันมากขึ้น

เนื้อหาการฝึกอบรมจะเน้นรูปแบบการสื่อสารที่ไม่ขัดแย้งกัน และสิ่งเสริมซึ่งกันและกันในการสร้างความสำเร็จในการทำงาน เพราะไม่เพียงส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานเท่านั้น แต่ยังทำให้ ทุกคนเข้าใจความแตกต่าง ที่เป็นพื้นฐานของการทำงาน ยิ่งถ้าพนักงานเข้าใจผู้คนรอบตัวเรามากเท่าไร เป็นการสร้างมนุษย์สัมพันธ์ เพื่อการประสานงานที่ดีเลิศ เราก็จะสามารถเป็นผู้นำ ผู้จัดการ และเพื่อนร่วมงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นเท่านั้น

หลักสูตร การพัฒนาบุคลิกภาพและการสื่อสาร เพื่อความเป็นเลิศทางธุรกิจ จะมีทำให้ทุกคนมีความเชื่ออย่างแรงกล้าและสามารถพัฒนาบุคลิกภาพและสื่อสาร ที่ดี มีเสน่ห์ และตอบสนองต่อสไตล์ต่าง ๆ กับคนที่ต้องติดต่อด้วย โดยการเรียนจะเน้นการปฏิบัติเพื่อให้คนเรียนเข้าใจและสามารถนำไปปรับใช้ในการติดต่อประสานงานกับผู้อื่น

หลักสูตร 8 ขั้นตอนการเป็นนักขายมืออาชีพ
8 Steps of Professional Selling Skills

หมายเหตุ: หลักสูตรนี้เป็นหลักสูตรที่ประยุกต์มาจากหลักสูตร Expert Selling จาก University of San Francisco ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยวิทยากรได้รับ Certificate of Expert Selling Program,  Certificate of Expert Sales Management Program และ Certificate of Transitioning to Sales Management Program

ความเป็นมาของหลักสูตร ฝึกอบรม

ความสำเร็จในการทำงาน มาจากการที่พนักงานสามารถวางตัวให้มีความเหมาะสมน่าเชื่อถือ  และมีการสื่อ สารที่ดี ทำให้คนภายนอกรู้สึกอยากสนทนาด้วย เพราะการติดต่อสื่อสารคือองค์ประกอบของการติดต่อของคนมากกว่า 2 คนขึ้นไป ไม่ว่าจะเป็นการติดต่อเพื่อการทำงานหรือการติดต่อด้วยเรื่องทั่ว ๆ ไป

แต่อย่างไรก็ตามในทางปฏิบัตินั้น พนักงานจำนวนมากไม่เข้าใจกลไก การพัฒนาบุคลิกภาพและการสื่อสารที่ดี ทำให้การทำงานเป็นปัญหาและอุปสรรค ดังเช่นความท้าทายต่อไปนี้

1. พนักงานส่วนใหญ่ ไม่มีทักษะในการวางตัว ทำให้ขาดความน่าเชื่อถือ คนไม่อยากคุยด้วย
2. พนักงานขาดความมั่นใจเมื่อต้องติดต่อกับผู้อื่น ทำให้การติดต่อเพื่อการประสานงานเป็นเรื่องยาก
3. พนักงานไม่เข้าใจว่าจะปรับ การพัฒนาบุคลิกภาพและการสื่อสาร เพื่อความเป็นเลิศทางธุรกิจจะทำได้อย่างไร เริ่มต้นไม่ถูก
4. พนักงานไม่มีความรู้ดีที่พอ ในการสื่อสารกับผู้อื่น เพราะมองตัวเองไม่ออกว่าตนเองมีปัญหาการสื่อสาร ทำให้ประสานงานกับคนอื่นไม่ได้
5. เมื่อต้องไปติดต่อกับองค์กรข้างนอก ไม่มีบุคลิกภาพที่ดี วางตัวไม่เป็น ทำให้คนภายนอก ไม่ให้ เพราะกิริยาท่าทางการแสดงออกไม่ใช่ บุคลิกภาพอย่างมืออาชีพ
6. พนักงานไม่สามารถสื่อสารเพื่อการโน้มน้าวจิตใจผู้อื่น ทำให้การทำงานร่วมกับคนอื่นไม่รื่นไหล อย่างมีประสิทธิภาพ
7. ไม่มีเทคนิคการสื่อสารด้วยคำสำคัญ ทำให้เวลาสื่อสารมีแต่ความสับสน ทำให้คนฟังไม่เข้าใจ ทำงานต่อไม่ได้
8. พนักงานเมื่อติตต่อผู้อื่นมีการแสดงท่าทีที่ไม่เป็นมิตร ทำให้คนอื่นไม่อยากเข้าใกล้ หรือปรึกษา ให้ความช่วยเหลือ
9. พนักงานไม่เข้าใจการสร้างมิตรภาพ จากการพัฒนาบุคลิกภาพและการสื่อสารที่ดี ทำให้ไม่สามารถเชิญชวนเพื่อนร่วมงานให้เข้าร่วมกิจกรรมองค์กร หรือกิจกรรมกลุ่ม ทำให้ทุกคนรู้สึกเมินเฉย
10. พนักงานไม่มีหลักใน การสื่อสารแบบ 360 องศา ทำให้พบคนที่หลากหลาย แล้วทำให้ไม่ปประสบความสำเร็จในการสื่อสาร
11. และความท้าทายอื่น ๆ ที่ทำให้ การทำงานเป็นอุปารรค หรือเกิดการติดขัดในการทำงานร่วมกันของพนักงาน

โลกทางธุรกิจกำลังเปลี่ยนไป การสื่อสารกำลังถูกประยุกต์ผ่านกลไกทางดิจิตอลเพิ่มมากขึ้น ทำให้การทำงานของพนักงานนั้นติดกับเครื่องมือที่เป็นเทคโนโลยีตลอดเวลา บางครั้งอาจมองสิ่งรอบข้างเป็นเครื่องจักร จนบางครั้งลืมสิ่งที่ตนเองต้องปฏิบัติเพื่อเป็นตัวช่วยในการทำงานให้มีผลผลิตที่เพิ่มมากขึ้น

ในบางครั้งพนักงานหลายคนไม่เข้าใจหลักของการวางตัวให้เหมาะสม ไม่มีทักษะในการสื่อสาร ไม่คำนึงถึงความต้องการที่แท้จริงหรือจิตใจของลูกค้า ไม่คำนึงถึงภาพลักษณ์ที่สำคัญเมื่อต้องอยู่ต่อหน้าผู้อื่น ทำให้การทำงานไม่ประสบความสำเร็จ

ซึ่งในความเป็นจริงนั้นความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี หรือ AI นั้น ไม่ได้เป็นตัวตอบโจทย์ของความสำเร็จที่แท้จริง เพราะมนุษย์ยังต้องการการติดต่อที่มีประสิทธิภาพ ทำให้โลกของ AI ไม่สามารถสร้างความยั่งยืนหรือความพึงพอใจต่อผู้อื่นได้อย่างถาวร เพราะเทคโนโลยี่ไม่ได้ตอบสนองต่อความพึงพอใจที่แท้จริงของคนอื่น เช่นลูกค้าได้

AI จึงเป็นเพียงเครื่องมือในการติดต่อกับผู้อื่นเท่านั้น แต่ไม่ได้ตอบว่าจะทำให้การติดต่อประสบความสำเร็จหรือไม่ ซึ่งในความเป็นจริงนั้นลูกค้ามีความต้องการที่จะให้พนักงานเป็นผู้ดูแล เอาใจใส่เป็นพิเศษ ตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าได้อย่างเป็นรูปธรรม ดังนั้นพนักงานที่เข้าถึงจิตใจของผู้อื่นได้อย่างชัดเจน มีวิธีการที่จะดึงความสนใจจากผู้อื่นได้อย่างรวดเร็วจึงเป็นผู้ที่มีโอกาสประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจเพิ่มมากเท่านั้น

บุคลิกภาพของพนักงานจึงเปรียบเสมือน กุญแจสำคัญที่จะทำให้พนักงานมีการทำงานร่วมกับผู้อื่น ด้วยรูปแบบที่เปิดเผย ทั้งความคิด อารมณ์ และพฤติกรรม ได้อย่างมีสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ของตนเองที่ดี ที่ใช้ขับเคลื่อนในชีวิตการทำงาน

พนักงานจำเป็นต้องเข้าใจและเปิดเผยบุคลิกภาพของตัวเอง ให้ผู้อื่นรับทราบ เพื่อสร้างการทำงานร่วมกันอย่างไว้ใจ เชื่อมั่นและอยากช่วยเหลือซึ่งกันและกัน

ในการทำงานร่สมกันในสถานที่ทำงานที่จำเป็นต้องมีการสื่อสารที่ดี และการสื่อสารที่ได้รับการปรับแต่งให้เหมาะกับบุคลิกภาพของพนักงานในการทำงานแต่ละส่วนงาน เท่ากับเป็นการส่งเสริมการทำงานร่วมกัน และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ด้วยการมีกลยุทธ์การสื่อสารเพื่อการโน้มน้าวใจ สร้างสภาพแวดล้อมก็จะดีในการทำงานก็จะเป็นแรงกระตุ้นให้เกิดความช่วยเหลือหรือทำงานเป็นทีมนั่นเอง

องค์กรชั้นนำจึงพยายามที่จะให้พนักงานมีการปรับบุคลิกภาพและการสื่อสาร เพื่อความเป็นเลิศทางธุรกิจ ด้วยการสารที่ถูกวิธี เพื่อใช้บุคลิกภาพและการสื่อสารเป็นเครื่องมือที่สำคัญที่จะทำให้ลูกค้ามีความพึงพอใจ สร้างความเชื่อมั่นนำมาซึ่งการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับองค์กร ทำให้เป็นการเพิ่มโอกาสในการเพิ่มรายได้ให้กับองค์กร

หลักสูตร การพัฒนาบุคลิกภาพและการสื่อสาร เพื่อความเป็นเลิศทางธุรกิจ Effective Personality and Communication for excellent performance ถูกออกแบบมาเพื่อใช้ในการพัฒนาพนักงานทำให้มีความมั่นใจเมื่อต้องอยู่ต่อหน้าลูกค้า สร้างความเป็นอัตลักษณ์ที่มีระดับในด้านบุคลิกภาพและมีกระบวนการของการสื่อสาร การโน้มน้าวใจ การนำเสนอ ที่จะมัดใจบุคคลรอบข้าง

การพัฒนาบุคลิกภาพและการสื่อสาร เพื่อความเป็นเลิศทางธุรกิจ จึงเป็นเสมือนเครื่องมือที่สำคัญที่จะสร้างความประทับใจให้กับลูกค้า นำไปสู่การสร้างฐานลูกค้าระยะยาวขององค์กรได้ เพราะการที่มีพนักงานที่มีบุคลิกภาพ (Personality) ดี เท่ากับเป็นเสมือนหน้าต่างของการติดต่อ (Window of Contact) เป็นจุดเริ่มต้นของความประทับใจ พัฒนาบุคลากรเพื่อเข้าถึงแก่นแท้ของศาสตร์ด้านบุคลิกภาพและการสื่อสาร จะทำให้พนักงานมีความโดดเด่นเหนือคู่แข่งขัน  เท่ากับจะทำให้ตนเองนั้นได้เปรียบในการติดต่อสื่อสารในครั้งนั้น ๆ โดยเริ่มตั้งแต่การวางตัว การเข้าพบ การนำเสนอในรูปแบบต่าง ๆ ซึ่งผู้เข้าอบรมจะสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้จริง เพื่อการพัฒนาศักยภาพของตนเองและขององค์กรต่อไป