14.การทำงานเป็นทีม เป็นหน้าที่ของทุกคน แต่ ผู้จัดการ จำเป็นต้องเป็น ผู้จัดการ 5.0 คือ ทำงานเชิงรุกเข้าใจรายละเอียดในการบริหาร การทำงานทีม ได้ดียิ่งขึ้น

15.มี เทคนิคการนำเสนอ แนวทาง ที่ดีในการทำงานเป็นทีม ซึ่งดีมาก ๆ เพราะทำให้เห็นแนวทางที่ชัดเจน จาก การนำเสนอด้วยการเล่าเรื่อง Storytelling ทำให้รู้สึกว่าการทำงานเป็นทีม ของเราว่า ยาก แต่คนอื่นยากมากว่าคะ

16.มีวิธีการ เทคนิคการสื่อสารเพื่อการโน้มน้าวใจ เป็นพื้นฐาน การสื่อสารแบบ  360 องศา ภายในองค์กร ทำให้คนอื่นอยากช่วยงาน พร้อมใจ ในการทำงานเป็นทีม

17.ดร.สุรชัย โฆษิตบวรชัย มีวิธีการสอน เฉพาะตัว มีการยกตัวอย่างจากที่ อาจารย์เคยเจอในการทำงานเป็นทีม กับองค์กรชั้นนำ ที่ทำให้ สนุก เข้าใจง่าย เนื้อหาไม่ซับซ้อน เห็นความสำคัญในการทำงานเป็นทีมมาก ๆ

18.เข้าใจโครงสร้างและกระบวนการ ขั้นตอนการ ทำงานเป็นทีม พนักงานทุกคน ทุกระดับ ต้องเข้าใจที่จะ ทำงานเป็นทีม เพื่อ ทำงานร่วมกับคนอื่นได้เป็นอย่างดี

19.เข้าใจเรื่องละเอียดในการทำงานเป็นทีม ตั้งแต่ ใจเขา ใจเรา การสื่อสาร การสร้างความไว้วางใจ ในการทำงานเป็นทีม ละเอียดมากคะ ของคุณคะ

20.เป็นผุ้จัดการ ปกติ จะเป็นคนอารมณ์ร้อน มาเรียนเข้าใจเลยว่าต้องเป็น ผู้บริหารแบบ 360 องศา ไม่ใช่เฉพาะผู้จัดการของแผนกเท่านั้น ลดความอารมรณ์ร้อนลงไปมาก ดีครับ

21. ชอบให้มีการแลกเปลี่ย และให้นำแนวทาง การแลกเปลี่ยนแบบ การสื่อสารชั้นสูง ไปใช้ในการทำงาน สนุก ไม่น่าเบื่อเลย อบรมมีกิจกรรม เพื่อให้เข้าใจ วิธีการทำงานเป็นทีม

22. การเข้าใจการ บริหารการเปลี่ยนแปลง    และ   การลดข้อขัดแย้ง การสร้าง การทำงานเป็นทีม เป็นเรื่องของทุกคนในองค์กร ถ้าเข้าใจขั้นตอนการ ทำงานร่วมกับคนอื่น ในลักษณะเป็น Teamwork งานที่ว่ายาก ก็จะเสร็จได้ ทำได้ด้วยทีมงาน ได้ข้อคิด ไปปรับใช้ ดีมาก ๆ คะ

23.นำไป พัฒนาผู้จัดการระดับต้น เพื่อ สร้างแรงจูงใจ ให้เพื่อนร่วมงาน มีกำลังใจ ในการทำงานร่วมกัน ไม่เหนื่อยต่อการทำงานที่ยาก

24.ได้ทราบเทคนิคการสื่อสารภายในองค์กร การโน้มน้าวใจ เพื่อทำให้ทุกคนพร้อมจะช่วยเหลือในทีมงาน

การทำงานเป็นทีม เป็นสิ่งสำคัญในโลกธุรกิจปัจจุบัน ถือเป็นองค์ประกอบสำคัญของ ทุกองค์กร ที่ต้องการประสบความสำเร็จ

การทำงานเป็นทีม ที่มีประสิทธิภาพไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ แต่ต้องมีความรู้ มีแนวทางในการพัฒนา เทคนิคการทำงานเป็นทีม ซึ่งประกอบไปด้วย ทักษะในการแก้ปัญหา การตัดสินใจ การสื่อสาร ภาวะผู้นำเชิงรุก และ ผู้จัดการระดับกลาง และ ทักษะในการมีมนุษย์สัมพันธ์ เข้ากับผู้อื่นที่ดี

การทำงานเป็นทีม ซึ่งทุกคนในทีม ต้องมีการมีการพัฒนา ทักษะการมีปฏิสัมพันธ์ร่วมกับคนอื่น  โดยเฉพาะต้องกระตุ้นให้พนักงานทุกคนในทีม กล้าที่จะแสดงความคิดเห็น และการบริหารจัดการกับบุคลิกที่หลากหลาย เพื่อให้ร่วมใจกันทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ถึงแม้จะมีความแตกต่างกันก็ตาม ก็ต้องเข้าใจ บทบาทของสมาชิกในการทำงานเป็นทีม

เนื้อหา หลักสูตรการทำงานเป็นทีม จะเน้นการทำงานร่วมกันเพื่อแก้ไขปัญหา ด้วยการตัดสินใจ เพื่อฝ่าฟันปัญหาและอุปสรรคที่เกิดขึ้น ถึงแม้การทำงานเป็นทีมจะมีความแตกต่าง ของสมาชิกในทีม แต่พนักงานทุกคน ต้องรับผิดชอบ และพร้อมที่จะส่งมอบผลลัพธ์ที่ดี ทำให้บรรลุเป้าหมาย ไปด้วยกัน

แนวคิดเรื่อง หลักสูตร การทำงานเป็นทีม  Teamwork ถูกออกแบบเพื่อให้เข้าใจกลไกการสร้างและการพัฒนา การทำงานเป็นทีม ภายใต้ข้อจำกัดต่าง ๆ ที่มีในองค์กร

เพราะการทำงานเป็นทีมอย่างมีประสิทธิผลไม่ได้เกิดขึ้นเอง เป็นธรรมชาติ แต่ต้องร่วมแรงร่วมใจกันสร้างขึ้นมา เพื่อใช้ในการแก้ปัญหา การตัดสินใจ การสื่อสาร และทักษะในการเข้ากับผู้อื่นที่ดี

เนื้อหาในการเรียนจะเน้น ให้ผู้เข้าอบรมทุกคน  มองเห็นศักยภาพ ซึ่งกันและกัยนในทีมงาน มากว่า โดยทำให้รู้ว่าการทำงานร่วมกันจำเป็นต้องพึ่งพากันและกัน เข้าใจว่าเป้าหมายส่วนตัวและเป้าหมายของทีมงาน มีความสำคัญ ไม่แพ้กัน

โดยเวลาการทำงานร่วมกันจะลด เวลา ที่สูญเปล่าจากความไม่พอใจซึ่งกันและกัน การไม่พอใจซึ่งกันและกัน และมองแต่ผลประโยชน์ส่วนตัวโดยไม่คำนึงถึงผู้อื่น

เมื่อแต่ละคนทำงานเป็นส่วนหนึ่งของทีม พวกเขาจะทำงานภายใต้บรรยากาศของความไว้วางใจและได้รับการสนับสนุนให้แสดงออกอย่างเปิดเผย สภาพแวดล้อมประเภทนี้ส่งเสริมให้สมาชิกในทีมถามคำถาม หยิบยกปัญหาขึ้นมา ไม่เห็นด้วย และมีความคิดสร้างสรรค์มากขึ้นในการแก้ปัญหา

สมาชิกในทีมทุกคนฝึกฝนการสื่อสารแบบเปิดกว้างซึ่งกันและกัน พวกเขามั่นใจว่าเข้าใจกัน ซึ่งจะช่วยส่งเสริมบรรยากาศของความไว้วางใจระหว่างสมาชิกในทีม
ทีมที่ดีจะสนับสนุนให้สมาชิกเรียนรู้จากงานและพัฒนาทักษะใหม่ๆ ทีมจะสนับสนุนสมาชิกที่ต้องการเรียนรู้และทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น พวกเขายอมรับว่าอาจมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นระหว่างทางแต่ก็ยอมรับที่จะเรียนรู้

การตัดสินใจเกี่ยวข้องกับทีมทั้งหมด โดยใช้ความรู้และประสบการณ์เฉพาะตัวของสมาชิกแต่ละคนเป็นฐาน อย่างไรก็ตาม พวกเขาเข้าใจว่าหัวหน้าทีมจะเป็นผู้ตัดสินหากพวกเขาไม่สามารถหาทางแก้ไขได้

ทีมที่ดีจะแก้ไขข้อขัดแย้งได้อย่างรวดเร็วและสร้างสรรค์ สมาชิกในทีมรู้สึกสบายใจที่จะเปิดใจต่อกันและสื่อสารกันอย่างอิสระ เพื่อสนับสนุนต่อความสำเร็จขององค์กร จากการทำงานเป็นทีม Teamwork

หลักสูตร การทำงานเป็นทีม Teamwork

หมายเหตุ: วิทยากรเป็นนักเรียนทุนด้าน “การเป็นวิทยากร (ผู้สอน) ด้านการบริหารจัดการ MTP: Management Training Program” จากรัฐบาลญี่ปุ่น โดยไปศึกษาเรื่องบริหารจัดการจากประเทศญี่ปุ่น นำมาเป็นแนวทางในการออกแบบหลักสูตร ภาวะผู้นำ สำหรับพนักงานใหม่

ความท้าทายใน การทำงาน ร่วมกันเป็นทีม เพื่อพัฒนาความสำเร็จร่วมกัน

เป็นความคาดหวังของ ผู้จัดการ ผู้บริหาร หรือ ผู้นำ ในการทำงานร่วมกันเป็นทีมที่ประสบความสำเร็จ เพราะ การทำงานเป็นทีม จะช่วยให้ทีมงานสามารถกำหนด และ ค้นหาแนว ทางแก้ปัญหาได้เป็นอยางดี โดยเฉพาะปัญหาที่ซับซ้อนด้วยการร่วมใจของทีมงาน ได้ทางออกของการแก้ัปญหาอย่างสร้างสรรค์และทำงานไปสู่เป้าหมายร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ในการทำงานร่วมกันเป็นทีม จะได้รับการยกย่องอย่างสูงในองค์กร ไม่ว่าจะเป็นที่ทำงานต่างๆ ในอุตสาหกรรมต่างๆ จึงจำเป็นต้องสร้างสภาพแวดล้อมของทีมงานที่พร้อมจะร่วมกันช่วยเหลือกัน

แต่ในความเป็นจริงยังมีความท้าทายที่มาก ในการบริหารจัดการทีมงาน ให้ทำงานได้ดั่งใจที่คาดหวัง เพราะมีความปัญหาและอุปสสรคของทีมงาน ที่เป็นความท้าทายที่ผู้บริหาร ผู้จัดการอัจฉริยะ และ ผู้บริหาร 360 องศา ต้องให้ความสำคัญดังนี้

1. ผู้นำ ทำงานไม่มีประสิทธิภาพ

เพื่อให้ทีมทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผู้นำต้องสามารถชี้นำ เสนอข้อมูลเชิงลึก และสนับสนุนการทำงานร่วมกันได้ ดังนั้น ภาวะผู้นำที่ไม่มีประสิทธิภาพจะส่งผลให้ทีมรู้สึกขาดการเชื่อมโยงและขาดแรงจูงใจ และส่งผลกระทบอย่างมากต่อความสามารถในการทำงานเป็นทีม

2. เป้าหมายของการทำงานเป็นทีม ไม่ชัดเจน

การทำงานเป็นทีม ต้องเริ่มต้นด้วยการกำหนดเป้าหมายร่วมกันที่สมาชิกในทีมสามารถทำงานร่วมกันได้ แต่ถ้าทีมงาน ไม่เข้าใจวัตถุประสงค์ในการทำงานอย่างถ่องแท้เป้าหมายไม่ชัดเจน จะทำให้เกิดความสับสนในการทำงานร่วมกัน

3. ช่องว่างในการสื่อสาร

พื้นฐานการทำงานเป็นทีม คือการที่สมาชิกในทีมสามารถสื่อสารกับคนอื่นๆ ได้เป็นอย่างดี ต้องใช้ ทักษะการสื่อสารแบบ 360 องศา และ การสื่อสารเพื่อการโน้มน้าวใจ เพราะช่องว่างในการสื่อสารอาจส่งผลให้สมาชิกในทีมขาดความชัดเจนเกี่ยวกับความคาดหวังและความรับผิดชอบของตนเอง การฝึกฝนทักษะ การสื่อสารเพื่อความสำเร็จ การสื่อสารภายในองค์กร เพื่อเติมเต็มช่องว่างเหล่านี้และทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

4. ขาดความไว้วางใจ

เพื่อทำงานร่วมกันเพื่อบรรลุเป้าหมายร่วมกัน จำเป็นต้องทำงานด้วยความไว้ใจซึ่งกันและกัน และเมื่อทีมงานขาดความไว้ใจกันและกัน จะนำมาซึ่งปัญหาในการทำงานเป็นทีมทันที

ในการทำงานเป็นทีม หากขาดความไว้วางใจ สมาชิกในทีมอาจไม่รู้สึกสบายใจที่จะให้ข้อเสนอแนะหรือแบ่งปันมุมมองของตนเองตลอดกิจกรรมการทำงานร่วมกัน ยิ่งไปกว่านั้น การขาดความไว้วางใจอาจส่งผลให้เกิดการสื่อสารที่ผิดพลาดและเกิดความขัดแย้ง ซึ่งอาจขัดขวางการทำงานเป็นทีมได้มากขึ้น

5. ความทำงานที่ลำเอียง ไม่เท่าเทียม

ในสภาพแวดล้อมของการทำงานเป็นทีม เป็นเรื่องปกติที่สมาชิกในทีมคนหนึ่งจะรับผิดชอบมากกว่าคนอื่นๆ ทำให้มีการทำงานที่ลำเอียง ไม่เท่าเทียมกัน

สภาพแวดล้อมที่ไม่เท่าเทียมกันนี้มักเกิดจากสมาชิกในทีมบางคน ทำให้เกิดความไม่พอใจ เพราะความไม่ยุติธรรมในการทำงานร่วมกันนั่นเอง

6. จำนวนคน ในการทำงานเป็นทีม

จำนวนคนมีผลต่อ การทำงานเป็นทีม เพราะทีมงานขนาดเล็ก มักจะทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าทีมขนาดใหญ่ นั่นเป็นเพราะกลุ่มขนาดเล็กมักมีโอกาสโต้ตอบกันเอง สร้างความสัมพันธ์ที่ดี และแบ่งปันความรับผิดชอบอย่างเท่าเทียมกันมากกว่า เมื่อทีมมีขนาดใหญ่เกินไป สมาชิกอาจประสบปัญหาในการแบ่งปันหน้าที่และทำความเข้าใจบทบาท ในการทำงานเป็นทีม  เพื่อหลีกเลี่ยงอุปสรรคจากขนาดของจำนวนคน ในการทำงานเป็นทีม ต้องมอบหมายงานที่ชัดเจน ให้กับแต่ละทีมและให้แน่ใจว่าสมาชิกทุกคนเข้าใจจุดประสงค์ของตนเอง

7. ความรับผิดชอบของสมาชิกในการทำงานเป็นทีม

ความท้าทายในเรื่องความรับผิดชอบ ของสมาชิกในการทำงานเป็นทีม โดยเฉพาะในกรณีที่สมาชิกในทีมบางคนทำงานได้ต่ำกว่ามาตรฐาน และเมื่อมีความรับผิดชอบมากขึ้น สมาชิกในทีม อาจปฏิเสธการทำงานที่เพิ่มขึ้น เพราะคิดว่าตนเองด้อยประสิทธิภาพ

8. การแก้ไขข้อขัดแย้งที่ไม่ดี

ในการทำงานเป็นทีม ต่างๆ เข้าใจดีว่า ต้องเผชิญกับความขัดแย้งในขณะที่ทำงานร่วมกัน เพื่อบรรลุเป้าหมายร่วมกัน ผู้นำเชิงรุก จะต้องรู้  การคิดเชิงวิเคราะห์ เพื่อการแก้ปัญหา หรือ การคิดเชิงตรรกะ เพื่อให้ทุกคนก้าวไปข้างหน้าด้วยกัน หากไม่มีทักษะใน การสร้างทีมงานให้เป็ฯผู้นำเชิงรุก การแก้ไขข้อขัดแย้ง จะทำให้การทำงานเป็นทีมไม่สำเร็จลุล่วงไปได้

หลักการและเหตุผล ของ หลักสูตร การทำงานเป็นทีม Teamwork

การทำงานเป็นทีม หรือ การสร้างทีม เป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะในทุก ๆ องค์กรนั้น มีองค์ประกอบที่เล็กที่สุดคือ “คน” และเมื่อคนได้รวมตัวกันเพื่อทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดให้กับองค์กรได้ ก็จะทำให้องค์กรนั้นมีความก้าวหน้า ประสบความสำเร็จ เรียกได้ว่าเป็นความสำเร็จจากการ ทำงานเป็นทีม

“การทำงานเป็นทีม” คือ หัวใจที่สำคัญในการบริหารองค์กร โดยเฉพาะ ทีมงานในส่วนงานที่มีหน้าที่ที่จะพัฒนาศักยภาพในการทำงานให้ได้ตามที่องค์กรได้วางแผนไว้

ในการทำงานเป็นทีม จึงเป็นพื้นฐานในการสร้างทีมงานที่มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งเพราะเป็นทีมงานที่จะทำให้องค์กร มีความก้าวหน้า บรรลุเป้าหมายที่วางไว้ หรือ ถ้าบริหารทีมงานไม่ดี จะทำให้ถดถอย

การทำงานเป็นทีม จึงเป็นจุดเริ่มของความสำเร็จในการทำงาน เพราะเมื่อทุกคนมีความตั้งใจในการทำงาน หน่วยงานอื่นก็จะต้องมีการขับเคลื่อนตามกันไป

การทำงานเป็นทีม มีองค์ประกอบสำคัญ คือการให้คนหลายคน มาทำงานรวมกัน โดยการให้ ผู้คนในทีมงาน ใช้ความสามารถได้อย่างเต็มที่ ด้วยค่านิยม และความเชื่อที่แตกต่างกัน มารวมกัน เพื่อบรรลุสิ่งที่ทำคนเดียวไม่ได้ ความสามัคคีเป็นรากฐานของการทำงานเป็นทีมที่มีประสิทธิภาพ นำไปสู่ความคิดสร้างสรรค์และผลผลิตที่มากขึ้นในที่ทำงาน และทีมงานที่มีความสุขและมีสุขภาพดีขึ้น

การทำงานเป็นทีม Teamwork มีความสำคัญเพราะช่วยส่งเสริมสภาพแวดล้อมการทำงานเชิงบวกที่พนักงานสามารถบรรลุโอกาสและเอาชนะอุปสรรคได้มากขึ้น ธุรกิจและองค์กรต่างๆ จำเป็นต้องทำงานเป็นทีมมากที่สุดเมื่อโครงการนั้นมีเวลาจำกัดและต้องการทักษะและประสบการณ์ที่หลากหลาย

ดังนั้นองค์ กรต่างๆ จึงหันมาให้ความสำคัญกับการบริหารทีมงาน Teamwork และ พัฒนาทีมงานให้มีความเป็นหนึ่ง ทำงานเชิงรุกเป็นทีมงานที่มีมุมมองไปในทิศทางเดียวกัน และถ้าองค์กรใดมีทีมงานที่มีประสิทธิภาพเท่ากับเป็นการเพิ่มศักยภาพความสำเร็จขององค์กรให้มีความก้าวหน้าทั้งด้านของผลประกอบการและการเจริญเติบโต

การทำงานเป็นทีม Teamwork ทำให้สามารถที่จะแข่งขันภายใต้สภาวะที่มีการแข่งขันกันอย่างรุนแรงดังเช่นปัจจุบันนี้ กระบวนการพัฒนาทีมงานทำให้ทุกคนนั้นมีความเข้าใจและตระหนังถึงการทำงานร่วมกัน แบ่งปันกัน ร่วมกันสร้างสรรค์และแก้ปัญหา

ซึ่งแนวทางการพัฒนา การทำงานเป็นทีม จะส่งผลทั้งในปัจจุบันและอนาคตของบุคลากรคนนั้นๆ ซึ่งจะส่งผลต่อความสำเร็จขององค์กร ซึ่งมี 10 ปัจจัยหลักของการพัฒนาทักษะในการทำงานเป็นทีม ดังต่อไปนี้

• เข้าใจตนเองและบริหารตนเองเพื่อให้ทำงานร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
• มีความชัดเจนในความสามารถของตนเอง  ทำให้มั่นใจในการทำงานร่วมกันได้เป็นอย่างดี
• มีเป้าหมายของการทำงานเป็นทีม ที่มีความชัดเจน ทำให้ทุกคนมองไปในทางเดียวกัน
• โฟกัส ไปในการบริหารทีมงาน ให้ทีมมีความต้องการความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง
• การคิดเชิงตรรกะ ในการวิเคราะห์แก้ไขปัญหาร่วมกันใน การทำงานเป็นทีม การบริหารเวลา ทำให้ไม่กลัวปัญหา
• ความสามารถใน การคิดนอกกรอบ และริเริ่มสร้างสรรค์และ สร้างสิ่งใหม่ ๆ
• มีความตั้งใจจริง มีวินัย ที่จะบรรลุเป้าหมายในการทำงานเป็นทีม ให้กับตนเองและทีมงาน
• การฟังและ การสื่อสาร สร้างความเคารพซึ่งกันและกัน
• ทักษะ การสื่อสารด้วยการเล่าเรื่อง ทำให้เชื่อมโยงกับเป้าหมายของทีมงาน
• การทำงานร่วมกัน ช่วยกัน สร้างประสิทธิภาพในการทำงาน โดย เน้น บริหารผลสำเร็จ เป็นที่ตั้ง
• การพัฒนา สร้างแรงจูงใจ สมาชิกในการทำงานเป็นทีม ให้ร่วมกันทำงานเป็นหนึ่งเดียว

จึงเป็นเรื่องที่ทุกองค์กรให้ความสำคัญ หลักสูตร “การทำงานเป็นทีม Teamwork” ถูกออกแบบมาเพื่อให้ตรงกับการบริหารจัดการทีมงานตามสภาพของสังคมไทย ทำให้เป็นเครื่องมือที่ทรงพลังและสำคัญต่อทุกคนในทีมขายภายในองค์กร

ในการทำงานเป็นทีม ทำให้สมาชิกในทีม รวมถึง ผู้นำ ผู้บริหารและ ผู้จัดการมีความเข้าใจในบทบาทและหน้าที่ของตนเอง ต่อผู้อื่น และต่อบริษัท มีการประสานการทำงาน เสมือนเป็นหนึ่งเดียว  ทำให้มีกลไกการเคารพซึ่งกันและกัน มีการเข้าใจในความเป็นผู้นำและผู้ตาม แบ่งปันและช่วยเหลือกันในวิถีทางที่ถูกต้อง ทำให้ได้ประสิทธิภาพการทำงานได้สูงสุด

แนวคิดในการพัฒนาหลักสูตร

หลักสูตร การทำงานเป็นทีม Teamwork  มีแนวทางในการจัดหลักสูตร เพื่อใช้ในการพัฒนา การทำงานเป็นทีม ซึ่งมี 4 องค์ประกอบหลักดังนี้

+ + 1: เข้าใจตนเองและเข้าใจทีมงาน เข้าในสภาวะแวดล้อม

+ + 2: เป้าหมายของทีมงาน มองไปในทิศทางเดียวกัน

+ + 3: มีการสื่อสาร เพื่อการโน้มน้าวใจ ให้ทำงานเป็นทีมได้อย่างมีประสิทธิภาพ

++ 4: ลดหรือ ปิดช่องว่าง ในเรื่องต่าง ๆ ที่จะนำความไม่เข้าใจในการทำงานร่วมกัน

องค์ประกอบ ในการทำงานเป็นทีม มีกระบวนการและขั้นตอนในการสร้างทีมที่ชัดเจน ซึ่งขั้นตอนเหล่านี้ต้องให้ทุกคนในทีมงานเข้าใจและคิดเหมือนกัน ทำเหมือนกัน ส่งผลลัพธ์ที่ยิ่งใหญ่ ในการทำงานเป็นทีม ซึ่งขั้นตอนในการพัฒนาทีมงานมีดังต่อไปนี้

1. สร้างสมดุลของการทำงานร่วมกันทั้งทักษะ ความสามารถ ความปรารถนาที่จะก้าวหน้า
2. ความชัดเจนของเป้าหมายร่วมกัน มีมุมมองไปในทิศทางเดียวกัน คือมีเป้าหมายที่ขัดเจน อธิบายได้ถึงความต้องการของ การทำงานเป็นทีม Teamwork
3. ความจริงใจที่จะ สื่อสารหารือกันทั้ง ๆ ที่มีความคิดเห็นที่เหมือนกันหรือแตกต่างกันออกไป
4. การสนับสนุนและการสร้างความไว้วางใจ ต้องสร้างความเชื่อมั่นให้ทุกคนในทีมงานถึงความสามารถที่จะดำเนินการตามที่เป้าหมายที่วางไว้
5. การประสานงาน การสร้างแรงจูงใจ และ  การบริหารเปลี่ยนแปลงและข้อขัดแย้ง ต้องมีความให้ความช่วยเหลือกันในทีมงาน ไม่ขัดแย้งกันในการทำงานร่วมกัน
6. กระบวนการทำงานร่วมกัน มีระบบรองรับในการทำงานร่วมกัน สามารถที่จะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ทุกคนเข้าใจถึงขั้นตอนที่ต้องทำ
7. การเลือกและการวางบทบาทของผู้นำที่เหมาะสม มีความรู้ ความสามารถที่ดีในการบริหารจัดการทีมงาน
8. ประเมินสถานการณ์ต่อเนื่อง ในการทำงานร่วมกัน ต้องมีการประเมินสถานการณ์อย่างต่อเนื่องเพื่อทำให้เข้าใจสถานการณ์อย่างแท้จริง
9. การพัฒนาทักษะ ความเชื่อมั่น รายบุคคล การปรับฐานความรู้เพื่อไม่ให้มีความแตกต่าง เพื่อลดช่องว่างของการทำงานร่วมกัน
10. การพัฒนาและสร้างสัมพันธ์ที่ดีขององค์กรต้องมีการ กระทำอย่างต่อเนื่องทำให้ทุกคนในทีมงานมีความรู้สึกว่าตนเองเป็นเสมือนสมาชิกในทีมงาน
11. การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ การฟัง การประชุม เป็นกลจักรที่สำคัญในการสื่อสาร  เพื่อการทำงานเป็นทีม ตั้งแต่ระดับหัวหน้ากับพนักงาน หรือ พนักงานกับพนักงาน หรือพนักงานกับหัวหน้า หรือ การสื่อสารกับ บุคลนอกองค์กร เช่นกัน