140 คำถาม สัมภาษณ์งานขาย เพื่อได้พนักงานขายที่ดีที่สุด เป็น คำถาม ที่ใช้ในการสัมภาษณ์พนักงานขาย ด้วยการกำหนดเป้าหมาย ด้วยวิธีการตั้งคำถาม ช่วยให้ผู้จัดการฝ่ายขายหาพนักงานขายอย่างที่ต้องการ ไม่ใช่การถามไปเรื่อย ๆ ไร้จุดหมาย
140 คำถาม สัมภาษณ์งานขาย เพื่อได้พนักงานขายที่ดีที่สุด
วิทยากร สอนหลักสูตร การขาย ดร.สุรชัย โฆษิตบวรชัย
การสัมภาษณ์งานขาย เพื่อให้ได้พนักงานขายที่ดีที่สุด เป็นเรื่องสำคัญสำหรับทุกองค์กร เพราะถ้าองค์กรไหน รับพนักงานขายคุณภาพเข้ามาทำงาน
เท่ากับมีโอกาสในการเพิ่มยอดขายได้เป็นอย่างดี อย่างที่มีคนเปรียบเปรยว่าติดกระดุมเม็ดแรกไม่ ถูก ก็จะเกิดความผิดพลาดทั้งกระบวนการ
ดังนั้น การจะได้พนักงานขายที่มีคุณภาพมาทำงานขายด้วยสักหนึ่งคน ผู้จัดการฝ่ายขายต้องกระบวนการในการสรรหาเป็นเช่างดีเช่นกัน
ตั้งแต่การเริ่มประกาศรับพนักงานขาย จนถึงขั้นตอนเรียกเข้ามาเพื่อสัมภาษณ์ เพื่อจะเข้าใจถึงมุมมอง ทัศนคติและความสามารถว่ามีความเหมาะสมกับตำแหน่งฝ่ายขายหรือไม่
ใน 6 เครื่องมือเพื่อบริหารทีมขาย จะเน้นการตั้งคำถามที่ใช้ในการสัมภาษณ์พนักงาน เพื่อมั่นใจว่าจะได้พนักงานขายตรงกับคุณลักษณะงานขายที่องค์กรต้องการ
ตำแหน่งพนักงานขาย เป็นตำแหน่งที่มีความสำคัญมาก เพราะถ้าได้พนักงานขายดี ๆ มา เท่ากับองค์กรก็พร้อมที่จะสร้างยอดขายได้เป็นอย่างดีเช่นกัน
แต่ถ้าองค์กรใดมีกระบวนการสัมภาษณ์พนักงานขายที่ไม่ดี ทำให้ไม่สามารถคัดกรองคนดี ๆ เข้ามาทำงาน ก็จะทำให้องค์กรไม่สามารถพัฒนายอดขายได้ ทำให้ปลายปีไม่สามารถปิดเป้าการขายได้นั่นเอง
140 คำถาม สัมภาษณ์งานขาย เพื่อได้พนักงานขายที่ดีที่สุด
ในความเป็นจริง กระบวนการสรรหาพนักงานขาย มีหลายขั้นตอน ที่ผู้จัดการฝ่ายขายที่มีหน้าที่ในการสัมภาษณ์พนักงาน ต้องให้ความสำคัญ ใส่ใจในทุกรายละเอียด เพื่อให้มั่นใจว่า คำถามสัมภาษณ์พนักงานขายมีคุณภาพที่ดีพอ ทำให้ได้พนักงานขายตามที่ต้องการ คราวนี้มอดู ตัวอย่าง 140 คำถามสัมภาษณ๋พนักงานขาย เพือให้ฝ่ายทรัพยากรบุคคล หรือ ผู้จัดการฝ่ายขาย สามารถนำมาใช้ประกอบการสรรหาพนักงานขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ซึ่ง 140 คำถาม สัมภาษณ์งานขาย เพื่อได้พนักงานขายที่ดีที่สุด มีดังต่อไปนี้
คำถาม สัมภาษณ์งานขาย ชุดคำถามสำเร็จรูป
1.ไหนทดลอง ขายแก้วใบนี้ให้ผมหน่อย
2.คุณมีวิธีการสร้างความสัมพันธ์อันยาวนานกับลูกค้าได้อย่างไร
3.หากลูกค้าไม่พอใจอย่างเต็มที่และพยายามเรียกร้องส่วนลดหรือคืนเงิน คุณจะทำอย่างไร
4.ทำไม คุณถึงเลือกอาชีพการขาย (หรือทำไมคุณถึงสนใจตำแหน่งการขาย)
5.ทำไม คุณถึงสนใจทำงานให้กับบริษัทของเรา
6.คุณมีวิธีการกระตุ้นตนเองไม่ให้ท้อได้อย่างไร
7.คุณรับมือกับการถูกปฏิเสธจากลูกค้าได้อย่างไร
8.จะมีเรื่องใดบ้าง ที่คุณคิดว่าจะหยุดการขายให้คนที่มีแนวโน้มจะเป็นลูกค้า?
9.คุณรู้สึกกังวลใจหรือกลัว กับการโทรหาลูกค้าที่คุณไม่รู้จักหรือไม่?
10.คุณมองการทำงานร่วมกันภายในทีมขาย หรือ พนักงานขายกับทีมอื่น ๆ เป็นอย่างไร
11.ลองเล่าให้ฟังเกี่ยวกับข้อผิดพลาดในการขาย ที่คุณด้ำ และคุณได้เรียนรู้อะไรจากข้อผิดพลาดนั้น ๆ
12.คุณรู้สึกชอบอะไร น้อยที่สุดหรือไม่ชอบเลยในงานขาย
13.คุณคิดว่าอะไรสำคัญกว่ากัน: ลูกค้าใหม่ หรือ ลูกค้าระยะยาว
14.คุณอธิบาย คำว่า ปรัชญาการขาย ที่คุณมีได้ไหม ถ้าไม่มี ให้ตอบว่าไม่มี
15.คุณคิดว่า ทักษะใดของคุณที่จะทำให้คุณขายเก่งกว่าพนักงานขายคนอื่น ๆ
16.มีเคยได้รับการอบรมอะไรบ้าง ที่คิดว่าจะช่วยให้คุณขายเก่งขึ้น
17.ถ้าคุณมีโอกาสเข้าอบรม คุณคิดว่าคุณอยากเรียนวิชาอะไร เพราะอะไร
18.อธิบาย ขั้นตอนการขายตั้งแต่ เริ่มต้นจนจบกระบวนการขาย
19.ถ้าคุณได้รับข้อมูลที่คุณแจ้งว่ามีคุณสมบัติของสินค้าครบถ้วน แต่ความจริงๆ แล้วไม่ได้เป็นเช่นนั้น คุณจะดำเนินการอย่างไร
20.หากคุณได้รับสายจากลูกค้าที่สอบถามเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือบริการที่จะวางจำหน่ายเร็ว ๆ นี้ (แต่ยังไม่เปิดตัว) คุณจะจัดการกับการสนทนาอย่างไร
21.เล่าให้ฉันฟังหน่อยเกี่ยวกับครั้งที่คุณรู้สึกว่าเพื่อนร่วมงานขโมยยอดขายของคุณไป เกิดอะไรขึ้น และคุณจัดการอย่างไร
22.คุณเคยแย่งยอดขาย หรือที่เรียกว่า ขโมยยอด หรือ ขโมยลูกค้า ของเพื่อนร่วมงานไปหรือไม่
23.ผู้จัดการฝ่ายขายคนล่าสุดของคุณจะอธิบายทักษะการขายของคุณอย่างไร
24.ผู้จัดการฝ่ายขายคนล่าสุด ให้ข้อมูลสิ่งที่คุณต้องปรับปรุงในการขายมีอะไรบ้าง
25.คุณคิดว่าเพื่อนเก่าที่เคยร่วมงานของคุณจะมองว่าคุณเป็นสมาชิกทีมขายที่เน้นการแข่งขันหรือให้ความร่วมมือ เพราะอะไร
26.มีด้านใดของผลิตภัณฑ์หรือบริการของเราที่คุณคิดว่าขายยากหรือไม่ อธิบายว่าทำไมคุณถึงรู้สึกแบบนั้น
27.การตลาดและการขายมีความเกี่ยวข้องกันอย่างไร
28.อยากให้คุณวิเคราะห์ ว่าแคมเปญโฆษณาล่าสุดของเราทำให้ทีมขายของเราขายได้ง่ายขึ้นหรือยากขึ้นหรือไม่
29.คุณมีวิธีการอย่างไรเกี่ยวกับการร้องเรียนของลูกค้า
30.คุณทำอย่างไรเพื่อคลายความเครียดหลังจากการ การพูดคุยสนทนาที่กดดันกับลูกค้า
31.คุณเคยรู้สึกหงุดหงิดใส่ลูกค้าที่มีแนวโน้มจะเป็นลูกค้าแต่เขาใส่อารมร์หรือดูหมิ่นคุณหรือไม่
32.คุณจะพิจารณาได้อย่างไรว่าลูกค้ารายนั้นเหมาะสมที่จะขายหรือไม่
33.เล่าให้ฉันฟังหน่อยเกี่ยวกับครั้งที่คุณพลาดเป้าการขาย เกิดอะไรขึ้น และคุณพลิกสถานการณ์ได้อย่างไร
34.อธิบายช่วงเวลาที่คุณสูญเสียโอกาสไป เกิดอะไรขึ้น และคุณเรียนรู้อะไรจากประสบการณ์นั้น
35.คุณเคยขายผลิตภัณฑ์หรือบริการที่คุณไม่เชื่อมั่นในคุณภาพหรือไม่
36.คุณตอบสนองต่อคำวิจารณ์เชิง หรือการด้อยค่าจากคนรอบข้างอย่างไร
37.คุณทำอย่างไรหากได้รับคำติชมเชิงลบเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือบริการที่คุณขาย
38.คุณนำเสนอผลิตภัณฑ์หรือบริการที่แตกต่างเพื่อรักษายอดขายได้อย่างไร
39.แนะนำหรือนำเสนอผลิตภัณฑ์หรือบริการหลักของเราให้ดูหน่อย
40.หากผู้จัดการให้ข้อมูลลูกค้าที่ติดต่อเข้ามา และขอให้คุณทำ คุณจะรีบโทรไปขายทันทีหรือไม่ เพราะอะไร
41.หากคุณต้องเลือกระหว่างการขายสินค้ามูลค่า 9,000 บาทหรือโอกาสในการทำข้อตกลงมูลค่า 50,000 บาท คุณจะเลือกอะไร และทำไม
42.คุณคิดว่าอะไรสำคัญกว่ากัน ระหว่างการทำยอดขายให้ได้หรือการรักษาระดับความพึงพอใจของลูกค้าให้อยู่ในระดับสูง
43.เล่าให้ฟังเกี่ยวกับความสำเร็จด้านการขายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของคุณ
44.อธิบายช่วงเวลาที่คุณเปลี่ยนคำพูดซ้ำๆ ว่า “ไม่” ให้กลายเป็น “ใช่”
45.คุณชอบอะไรมากที่สุดในการขาย
46.หากคุณไม่ได้ทำงานด้านการขาย คุณจะทำอะไรแทน?
47.คุณตั้งใจเริ่มต้นอาชีพในสายงานการขายหรือหางานเผื่อไว้ก่อน?
48.คุณคอยติดตามข้อมูลเกี่ยวกับกลุ่มเป้าหมายของคุณอย่างไร?
49.คุณติดตามการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่จากคู่แข่งหรือไม่? หากเป็นเช่นนั้น คุณจะใช้ข้อมูลดังกล่าวเพื่อประโยชน์ของคุณอย่างไร?
50.หากลูกค้าที่มีแนวโน้มจะเป็นลูกค้าสับสนระหว่างผลิตภัณฑ์ของเราและของคู่แข่ง คุณจะดำเนินการขายต่อไปหรือไม่ แม้ว่าพวกเขาจะเชื่อว่าจะได้รับผลิตภัณฑ์อื่น?
51.เล่าให้ฉันฟังเกี่ยวกับช่วงเวลาที่คุณทำงานร่วมกับทีมงานแผนกอ่น ๆ ข้ามแผนก
52.คุณรู้จักบริษัทของเราดีแค่ไหน อธิบาย?’
53.เล่าให้ฉันฟังเกี่ยวกับ ความประทับใจในตัวคุณ
54.เล่าภาพรวมเกี่ยวกับอาชีพของคุณจนถึงปัจจุบันให้ฉันฟังหน่อย
55.เป้าหมายอาชีพในระยะสั้นถึงระยะกลางของคุณคืออะไร?
56.คุณสร้าง พัฒนา และปิดการขายได้อย่างไร?
57.คุณคิดว่าความสำเร็จด้านการขายที่สำคัญที่สุดของคุณจนถึงปัจจุบันคืออะไร?
58.เล่าให้ฉันฟังเกี่ยวกับช่วงเวลาที่คุณล้มเหลวในการบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ เกิดอะไรขึ้นและผลลัพธ์อาจแตกต่างไปจากเดิมได้อย่างไร?
59.ทำไมคุณถึงสนใจบริษัทนี้? ทำไมคุณถึงสนใจบทบาทนี้?
60.ลองนึกถึงช่วงเวลาที่คุณเข้ากับใครในทีมไม่ได้ คนๆ นั้นจะบอกอะไรเกี่ยวกับคุณ?
61.คุณตามทันเทรนด์ล่าสุดของอุตสาหกรรมในการขายได้อย่างไร?
62.เล่าให้ฉันฟังเกี่ยวกับการขายที่ยากที่สุดที่คุณเคยทำมา?
63.คุณเคยต้องเลิกกับลูกค้าหรือผู้มีแนวโน้มจะเป็นลูกค้าหรือไม่? คุณจัดการกับเรื่องนั้นอย่างไร?
64.ทำไมคุณถึงสนใจการขาย?’ ‘คุณคิดว่าตัวเองเป็นผู้เล่นในทีมหรือไม่?
65.คุณสร้างสัมพันธ์กับลูกค้าอย่างไร?
66.คุณทำอย่างไรเมื่อยอดขายตกต่ำ?
67.คุณจัดการกับการปฏิเสธอย่างไร?
68.คุณรับรองความพึงพอใจของลูกค้าได้อย่างไรหลังจากที่คุณทำการขายไปแล้ว?
69.คุณเชื่อในการติดตามผลอย่างเข้มข้นในการขายหรือไม่ ซึ่งอาจมีความเสี่ยงที่จะทำให้ลูกค้าที่มีแนวโน้มจะซื้อเลิกสนใจ?
70.คุณรู้สึกอย่างไรกับการใช้ปัญญาประดิษฐ์ในการขาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเกี่ยวข้องกับการเลิกจ้างที่อาจเกิดขึ้น?
71.คุณเล่าให้ฉันฟังเกี่ยวกับช่วงเวลาที่คุณเปลี่ยนจากคำตอบว่าไม่กลายเป็นคำตอบว่าใช่ได้อย่างไร?
72.คุณรักษาแรงจูงใจในช่วงเวลาที่เงียบเหงาหรือเมื่อเผชิญกับการปฏิเสธซ้ำแล้วซ้ำเล่า?
73.คุณมั่นใจได้อย่างไรว่าคุณบรรลุหรือเกินเป้าหมายการขายของคุณ?
74.อธิบายช่วงเวลาที่คุณต้องขายผลิตภัณฑ์หรือบริการใหม่สำหรับคุณ
75.คุณรับมือกับความท้าทายนั้นอย่างไร และผลลัพธ์เป็นอย่างไร?
76.คุณเชื่อว่าเครื่องมือและเทคโนโลยีดิจิทัลใดบ้างที่กำลังเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์ของการขาย และคุณใช้ประโยชน์จากสิ่งเหล่านี้ในกระบวนการของคุณอย่างไร
77.คุณคาดว่าจะได้ยินคำคัดค้านอะไรจากลูกค้าในอุตสาหกรรม/ภาคส่วนนี้บ่อยที่สุด และคุณจะเอาชนะคำคัดค้านนั้นได้อย่างไร
78.คุณสะดวกใจที่จะโทรหาลูกค้าหรือไม่ คุณมีกลยุทธ์หรือแนวทางใดที่จะได้รับประโยชน์สูงสุดจากการโทรหาลูกค้า?
79.คุณมองความสัมพันธ์ระหว่างการขาย การตลาด และการโฆษณาอย่างไร คุณคิดว่าการจัดแนวทางการตลาดและการขายให้สอดคล้องกันนั้นสำคัญหรือไม่ และหากสำคัญ แนวทางใดบ้างที่ประสบความสำเร็จในการทำเช่นนั้น
80.คุณปรับเปลี่ยนเทคนิคการขายของคุณอย่างไรในภูมิทัศน์ดิจิทัลที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว?
81.อธิบายสถานการณ์ที่คุณต้องสร้างความสัมพันธ์ทางออนไลน์กับลูกค้าเป้าหมาย?
82.คุณมีงานอดิเรกอะไรนอกเหนือจากงาน?
83.คุณจะอธิบายบุคลิกภาพของคุณอย่างไร?
84.เพื่อนของคุณจะอธิบายบุคลิกภาพของคุณอย่างไร?
85.คุณชอบทำงานอิสระหรือทำงานคนเดียว?
86.คุณมีทักษะในการโน้มน้าวใจที่ดีหรือไม่?
87.คุณคุ้นเคยกับผลิตภัณฑ์ของบริษัทนี้หรือไม่?
88.คุณนิยามสภาพแวดล้อมการทำงานในอุดมคติว่าอย่างไร?
89.คุณต้องการเรียนรู้ทักษะทางเทคนิคหรือโปรแกรมใด? คุณจะพยายามใช้ทักษะหรือโปรแกรมเหล่านั้นอย่างคล่องแคล่วได้อย่างไร?
90.อธิบายสถานการณ์ที่คุณถูกผู้จัดการวิพากษ์วิจารณ์ คุณตอบสนองต่อคำวิจารณ์นั้นอย่างไร?
91.จุดแข็งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในการทำงานของคุณคืออะไร?
92.ทำไมคุณจึงต้องการลาออกจากตำแหน่งงานปัจจุบัน
93.คุณมีประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องอะไรบ้างในการทำงานในทีมขาย
94.ส่วนใดที่คุณชอบที่สุดในการทำงานเป็นตัวแทนขายในอดีต
95.อธิบายคุณสมบัติหลักของผู้จัดการหรือหัวหน้าในอดีตของคุณที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานของคุณ ไม่ว่าจะเป็นในเชิงบวกหรือเชิงลบ
96.อธิบายช่วงเวลาที่คุณไม่เห็นด้วยกับแนวทางการขายผลิตภัณฑ์ของตัวแทนขายคนอื่น
97.คุณจัดการกับลูกค้าที่มีศักยภาพที่สนใจผลิตภัณฑ์ของบริษัทอื่นอย่างไร
98.คุณมีการศึกษาระดับสูงสุดเท่าใด
99.คุณจะยอมรับโอกาสในการศึกษาต่อหรือไม่ หากบริษัทนี้จ่ายเงินให้
100.คุณมีใบรับรองอะไรบ้าง
101.คุณบรรลุเป้าขายที่คุณเคยทำงานขาย ที่ผ่านมาหรือไม่
102.คุณเคยปฏิเสธลูกค้าเป้าหมายในการขายหรือไม่
103.คุณมีความรู้หรือเข้าใจเกี่ยวกับตลาดเป้าหมายของคุณได้อย่างไร?
104.เมื่อใดจึงเหมาะสมที่จะไม่เข้าหาลูกค้าเพื่อทำการขาย?
105.ความแตกต่างระหว่างการขายแบบไขว้และการขายแบบเพิ่มปริมาณคืออะไร?
106.กระบวนการของคุณในการสร้างความสัมพันธ์ระยะยาวกับลูกค้าหลายรายเป็นอย่างไร?
107.อธิบายสถานการณ์ที่คุณทำผิดพลาดและสูญเสียการขาย คุณจัดการกับสถานการณ์นั้นอย่างไร?
108.เนื้อหาทางการตลาดสามารถช่วยคุณได้อย่างไรเมื่อคุณกำลังขายผลิตภัณฑ์?
109.โซเชียลมีเดียมีบทบาทอย่างไรในการเพิ่มยอดขายของบริษัท?
110.คุณเคยถามลูกค้าที่มีแนวโน้มจะเป็นลูกค้าหรือไม่ว่าทำไมพวกเขาถึงไม่ซื้อสินค้าจากคุณ?
111.คุณเรียนรู้อะไรจากการตอบข้อโต้แย้งนั้นหรือไม่?
112.คุณคิดว่าตัวเองในอีก 5 ถึง 10 ปีข้างหน้า คุณจะเป็นอย่างไร?
113.อะไรทำให้คุณมีแรงบันดาลใจเมื่อคุณอยู่ที่ทำงาน?
114.อะไรทำให้คุณเป็นตัวแทนขายที่ดี?
115.ทำไมคุณถึงสมัครงานในตำแหน่งนี้?
116.คุณคิดว่าบริษัทของเราสามารถปรับปรุงได้อย่างไร?
117.โปรดอธิบายความคาดหวังของคุณจากการทำงานในตำแหน่งขายนี้
118.คุณประทับใจบริษัทของเราอย่างไรบ้าง?
119.มีอะไรที่คุณไม่ชอบเกี่ยวกับการขายไหม?
120.ถ้าลูกค้า ไม่ซื้อสิ่งที่คุณนำเสนอขาย คุณจะทำอย่างไร
121.ลูกค้าที่ไม่พอใจ จะทำอย่างไร เพื่อให้ลูกค้ากลับมาพึงพอใจเช่นเดิม
122.คุณคิดว่าคุณมีความโดดเด่นจากคนอื่น ๆ
123.ทำไม คุณคิดว่าคุณชอบงานขาย ทั้ง ๆ ที่คุณไม่เคยทำงานขายมาก่อน
124.คุณทราบใช่ไหม ว่างานขายกดดัน ทำไมคุณคิดว่าคุณพร้อมที่จะรับมือกับความกดดัน
125.คุณคิดว่า คุณจะมีการหาลูกค้าจากที่ไหนบ้าง
126.คุณสนใจเรื่องการขายในอุตสาหกรรมอะไรเป็นหลัก?
127.สิ่งที่คุณสนใจมากที่สุดในการขายผลิตภัณฑ์ของเราคืออะไร?
128.ประสบการณ์ที่ผ่านมาด้านใดที่ทำให้คุณเก่งเรื่องการขาย?
129.คุณมีลักษณะนิสัยอะไรที่ทำให้คุณเก่งเรื่องการขาย?
130.ทดลองขายผลิตภัณฑ์ของเราให้ดูหน่อย
131.คุณมีประสบการณ์การใช้เทคโนโลยีการขายใดบ้าง?
132.เล่าให้ฉันฟังเกี่ยวกับครั้งที่คุณบรรลุเป้าหมายการขายของคุณ ว่าทำได้อย่างไร
133.เล่าให้ฉันฟังเกี่ยวกับช่วงเวลาที่คุณไม่สามารถบรรลุเป้าหมายการขายของคุณ
134.คุณสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าอย่างไร? ใช้เวลานานไหม?
135.คุณสามารถอธิบายแนวทาง ในการกำหนดเป้าหมายลูกค้าได้หรือไม่?
136.คุณมั่นใจได้อย่างไรว่าความพยายามในการขายของคุณ สอดคล้องกับเป้าหมายทางธุรกิจ?
137.คุณสามารถเล่าถึงช่วงเวลาที่คุณเปลี่ยนลูกค้าที่ไม่พอใจให้กลายเป็นลูกค้าที่มีความสุขได้หรือไม่?
138.คุณติดตามแนวโน้มยอดขายใน[อุตสาหกรรม]ได้อย่างไร?
139.อะไรคือ จุดอ่อน จุดที่คุณไม่พึงพอใจ ต่องานขายที่คุณมี
140.คุณมีคำถามอะไรบ้าง ที่ต้องการถามฉันไหม?
กระบวนการสรรหาและการสัมภาษณ์คือหัวใจสำคัญในการคัดคนทำงานและตำแหน่งงานขายต้องอาศัยพนักงานขายที่มองโลกในแง่ดี ความพากเพียร และความสามารถในการหาทางออกเมื่อมีปัญหา และความตั้งใจในการทำงานขายที่พยายามให้ตนเองประสบความสำเร็จ คำถามสัมภาษณ์พนักงานขายนี้จะช่วยให้ ผู้จัดการฝ่ายขาย และ ผู้จัดการฝ่ายทรัพยากรบุคคล มีเครื่องมือ คือคำถามในการคัดพนักงานเพื่อให้ได้พนักงานขาย ที่ใช่ ทำงานได้ดั่งที่ตั้งใจไว้
ผู้จัดการฝ่ายขาย จึงต้องให้ความสำคัญ ในเรื่องการสัมภาษณ์งานพนักงานขายเป็นอย่างมาก อย่าสัมภาษณ์ด้วยคำถามปลายปิด ที่จะสอบถามให้ผู้สมัครพนักงานขายที่จะตอบเพียงแค่ ใช่ หรือไม่ไม่ใช่ หน้าที่หลักของผู้จัดการฝ่ายขายที่จะผู้สัมภาษณ์งานในตำแหน่ง พนักงานขาย คือการได้รับคำตอบที่ชัดเจนจากผู้สมัครตำแหน่งพนักงานฝ่ายขายให้ได้มากที่สุด
ในความจริง คำถามเพื่อการสัมภาษณ์พนักงานขาย จำนวน 140 คำถาม เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการเตรียมการเพื่อสรรหาพนักงานขาย ผู้จัดการฝ่ายขาย หรือ ผู้จัดการทรัพยากรบุคคล สามารถนำคำถามสัมภาษณ์พนักงานขายมาใช้ได้ทันที หรือ จะนำมาแก้ไข ดัดแปลง ปรับให้ตรงตามแนวทางขององค์กร ก็สามารถประยุกต์ให้ตรงกับลักษณะงานขายนั้น ๆ ทำให้ง่ายขึ้นต่อการสัมภาษณ์งานพนักงานขาย ตามแนวทางการสรรหาพนักงานขายให้องค์กร
สุดท้ายขอให้ ผู้จัดการฝ่ายขาย หรือ ผู้จัดการทรัพยากรบุคคล และผู้ที่อ่านบทความนี้ ทุกคนโชคดี ได้พนักงานขาย ที่ใช่ ทำงานได้ตามเป้าหมาย และได้พนักงานขาย ตรงตามเป้าหมายที่ต้องการ..สู้ ๆ นะครับ
เขียนโดย วิทยากร สอนการขาย ดร.สุรชัย โฆษิตบวรชัย
บทความน่าอ่านเพิ่มเติม
จัดการกับลูกค้าใจร้อนแบบใด ให้ได้ออร์เดอร์!
จัดการกับลูกค้าใจร้อนแบบใด ให้ได้ออร์เดอร์ ถ้าวิเคราะห์ถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคในภาพรวมแล้ว ส่วนใหญ่ลูกค้าจะมีเวลาไม่มากนัก และใจร้อนคือไม่ชอบฟังการนำเสนอ เพราะเข้าใจว่าสินค้าโดยทั่วไปมีความคล้ายคลึงหรือไม่แตกต่างกันมากนัก เช่น โทรศัพท์มือถือ ...
เมื่อเจอลูกค้านิ่งเงียบ จะเริ่มการขายอย่างไรดี?
เมื่อเจอลูกค้านิ่งเงียบ จะเริ่มการขายอย่างไรดี? เจอลูกค้าที่เงียบๆ หรือที่เรียกว่า “Less Expression” ทำให้คิดหาทางแก้ไม่ถูก บางคนเกิดความไม่มั่นใจในหลายๆ อย่างตามมาเช่น คิดว่าตนเองทำอะไรผิด สร้างความไม่พอใจให้กับลูกค้าหรือเปล่า ข้อมูลที่ให้ไม่น่าเชื่อถือพอ หรือ...
จริงหรือ พนักงานขายต้องมีวิสัยทัศน์
จริงหรือ?...พนักงานขายต้องมีวิสัยทัศน์ เรื่องของวิสัยทัศน์ (Vision) พนักงานขายหลายคนมองข้าม ไม่ให้ความสำคัญ บางคนถึงกับผลักภาระความรับผิดชอบตรงนี้ให้บริษัท หรือผู้บริหารระดับสูงไปเลยก็มี ไม่ผิดอะไรถ้าจะรู้สึกเช่นนั้น...
นัดหมาย อย่างไร ให้ลูกค้าเต็มใจ รับนัด
นัดหมาย อย่างไร...ให้ลูกค้าเต็มใจ รับนัด คิดย้อนไปหลายสิบปีก่อนที่เข้าสู่วงการขายใหม่ ๆ ก็จะพบกับปัญหาคล้ายๆกัน คำถามที่ว่า จะนัดหมายลูกค้าอย่างไรไม่ให้มีความรำคาญถ้าสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นกับนักขายคนใดขอให้พึงสังวรไว้ว่าคุณกำลังทำอะไร...
เหตุใด..ยิ่งขายมานาน ยอดขายกับหาย
เหตุใด..ยิ่งขายมานาน ยอดขายกับหาย มีนักขายจำนวนไม่น้อยที่มีปัญหาเช่นนี้ เป็นตัวแทนขายประกันชีวิต เวลาขายได้ ก็มีเงิน แต่ตอนที่ขาดเงิน ไม่สามารถออกไปพบลูกค้าได้ เนื่องจากค่าใช้จ่าย ค่าน้ำมันรถ ค่าอาหารและอื่นๆ เส้นทางของการทำงานขายนั้น...
ทำงานประจำไม่รุ่ง อยากมุ่งทำธุรกิจส่วนตัว
เชอื่ วา่ คนท างานยคุ ใหมส่ มัยน ี้ ไม่ค่อยมีกะใจมากนักอยากจะท างานกับองค์กรใดองค์กรหนึ่ง ประมาณอารมณ์ว่าท างานจนเกษียณเพื่อรับบ านาญหรือ บ าเหน็จเป็นเกียรติยศแก่วงศต์ ระกูล ด ้วยเพราะหลายคนนั้นไม่อยากอดรนทนรอความส าเร็จจากการประกอบอาชพี เป็นมนุษยเ์งนิ เดอื นทอี่ กี...
ทำงานประจำไม่รุ่ง อยากมุ่งทำธุรกิจส่วนตัว
เชอื่ วา่ คนท างานยคุ ใหมส่ มัยน ี้ ไม่ค่อยมีกะใจมากนักอยากจะท างานกับองค์กรใดองค์กรหนึ่ง ประมาณอารมณ์ว่าท างานจนเกษียณเพื่อรับบ านาญหรือ บ าเหน็จเป็นเกียรติยศแก่วงศต์ ระกูล ด ้วยเพราะหลายคนนั้นไม่อยากอดรนทนรอความส าเร็จจากการประกอบอาชพี เป็นมนุษยเ์งนิ เดอื นทอี่ กี...
เทคนิคการระงับอารมณ์พลุ่งพล่านอย่างได้ผล
ในชวีติ การท างานของเรานัน้ มักจะมปีัญหานอ้ ยใหญ่มาใหข้ บคิดกันเสมอ ปัญหาเล็ก ๆ คงไม่เท่าไหร่ แต่ถ ้าปัญหาใหญ่ก็ชวนให้หนักทั้งใจและทั้ง ความคดิ ทจี่ ะตอ้งหาวธิจีัดการรับมอืใหไ้ด ้ และบอ่ ยครัง้เชน่ กันทปี่ ัญหาทอี่ าจจะเป็นเรอื่ งเล็กนอ้ ย สง่ ผลใหมี้...
อยากรุ่งต้องกล้าเสี่ยงทำงานยาก ๆ
นอกเหนือจากการปรับปรุงงานกันอย่างสม ่าเสมอจะเป็ นหนึ่งในคุณสมบัติหลักของคนที่จะประสบความส าเร็จในอาชพี การงานแลว้ ผมคิดว่าหากต ้องการจะท างานให้รุ่ง หรือท างานให้ก ้าวหน้าแล้ว คนท างานต ้องหัดท ้าทายตัวเองให้ท างานยาก ๆ กว่างานเดิมที่เคยท า ต...
4 เรื่องที่ควรโฟกัสเพื่อให้การงานก้าวหน้า
เรื่องก่อนหน้า ผมได้พูดถึงคุณค่าความสำคัญของการทำงานแบบโฟกัส และการทำงานทีละเรื่องอันจะช่วยใหท่านทำงานได้อย่างมปี ระสิทธิภาพ มากกว่าเดิมไปแล้ว เชื่อว่าท่านผู้อ่านจะเห็นพ้องด้วยกับที่นำเสนอไป โดยอยากชวนใหท่านผู้อ่านใช้เวลาสักนิดกับการไตร่ตรองถึงคุณค่าของการ...
อย่าเบื่อกับ การเมองภายในองค์กร
โครงสร้างบริษัทแบบดั้งเดิมที่มีอำนาจการจัดการแบบรวมศูนย์ซึ่งมีหลายประเภทจะเป็นประโยชน์สำหรับธุรกิจบางประเภท องค์กรใหญ่และหน่วยงานของรัฐมักใช้โครงสร้างระบบราชการและทำกำไรได้ หากหรือธุรกิจต้องการใช้โครงสร้างองค์กรประเภทนี้ให้ประสบความสำเร็จ...
การทำงานเป็นทีม
การทำงานเป็นทีม ประมาณ 25 ปี ในสหรัฐอเมริกามีหลายบริษัทเช่น W.L Gore, Volve และ General foods ได้มีการนำเสนอการทำงานเป็นแบบทีมเข้าไปใช้ในขบวนการผลิตแต่ในขณะนั้นยังไม่ได้รับการตอบสนองและไม่มีคนให้ความร่วมมือ อีกทั้งยังดูเป็นสิ่งทีแปลก แต่เมื่อมาถึงในปัจจุบันนี้...
การสร้างองค์กรแห่งการเรียนรู้
การสนทนา เพื่อพื้นฐานขององค์กรแห่งการเรียนรุ้ ดังนั้นควรที่จะเห็นประโยชน์ของแนวคิดนี้ ไปใช้ในการสร้างภูมิปัญญาขององค์กร ลดความขัดแย้งของทีมงาน และเพิ่มประสิทธิภาพของงานอีกด้วย ทั้งนี้กระบวนการเรียนรู้ด้วยวิธีการสนทนา ผู้นำต้องลดบทบาททั้งด้านเผด็จการ การลงโทษ...
เทคนิคการพัฒนาศักยภาพตนเอง : กำจัดจุดอ่อนและพัฒนาจุดเด่น
คนเราเกิดมาคงไม่มีใครดีพร้อมไปหมดทุกด้าน คนทุกคนย่อมมีทั้งจุดอ่อนและจุดเด่นแตกต่างกันไปตามเบื้องหลังชีวิตของแต่ละคน บางคนฉลาดแต่ควบคุมอารมณ์ไม่ได้ บางคนเก่ง แต่นำเสนอไม่เป็น บางคนทำงานดี ขยันขันแข็ง แต่รับไม่ได้ที่ถูกคนอื่นตำหนิหรือดุด่า บางคนเก่ง...
การสร้างกระบวนการตัดสินใจที่ดี ภายใต้ภาวะกดดัน
การสร้างกระบวนการตัดสินใจที่ดีภายใต้ภาวะกดดันMaking Good Group Decisions Amidst Pressure การตัดสินใจภายใต้ภาวะความกดดันมีผลทำให้ประสิทธิภาพการตัดสินใจของกลุ่มลดลง เนื่องมาจากหลายสาเหตุ เช่น ข้อมูลมากเกินไป, ให้ความสำคัญกับข้อสันนิษฐานและข้อเท็จจริง,...
การสื่อสารการตลาดแบบบูรณาการ
การสื่อสารการตลาดแบบบูรณาการ (IMC: Integrated Marketing Communication)เป็นสิ่งที่นักการตลาดรู้จักดี แต่ไม่สามารถทำให้เกิดขึ้นได้จริงๆ ด้วยหลายปัจจัย อาทิ อาจไม่เข้าใจ IMC อย่างลึกซึ้งพอ หรือคิดผิดที่ว่าการโฆษณาคือการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพที่สุด...
หลักการทำตลาดยุคใหม่
การทำตลาดยุคใหม่เน้นเจาะกลุ่มเป้าหมายแบบเฉพาะเจาะจง (select target) การทำตลาดยุคใหม่เน้นเจาะกลุ่มเป้าหมายแบบเฉพาะเจาะจง (select target) เริ่มมีให้เห็นกันมากขึ้นในปัจจุบัน เกมการตลาดเชิงรุกที่เจาะไปที่ demographic ของกลุ่มเป้าหมาย โดยมีไลฟ์สไตล์ของแต่ละวัยเป็นโจทย์...
สร้างแบรนด์เจาะลูกค้าระดับกลาง ญี่ปุ่น
ความซบเซาทางเศรษฐกิจท่ามกลางภาวะเงินเฟ้อที่ทะยานสูงขึ้นในญี่ปุ่น ได้ทำให้แบรนด์ดังๆ ทั้งหลายที่จำหน่ายสินค้าฟุ่มเฟือยเดือดร้อนไปตามๆ กัน เพราะลูกค้าชาวแดนอาทิตย์อุทัยพากันประหยัดค่าใช้จ่ายเพื่อตอบโต้ภาวะรายจ่ายประจำที่สูงขึ้น...
กลยุทธ์ผู้นำการตลาด
เมื่อการตลาดเป็นปัจจัยสำคัญของการแข่งขันทางธุรกิจ บริษัททั้งหลายควรจะต้อง พัฒนาการดำเนินงานของบริษัทให้มีความโดดเด่นทางด้านการตลาดในระดับที่เรียกว่าเป็นดาวทางด้านการตลาด ซึ่งบริษัทที่เป็นดาวทางการตลาดต้องมีสิ่งต่อไปนี้อย่างชัดเจน...
วิธีการสร้างพันธมิตร
ในปัจจุบันธุรกิจผุดขึ้นมาราวกับดอกเห็ดผู้ประกอบการต้องเตรียมความพร้อมในหลาย ๆ ด้านเพื่อรับมือกับความ เปลี่ยนแปลงความพร้อมอีกด้านหนึ่งที่ผู้ประกอบการต้องมีเพื่อธุรกิจไปรอด คือ พวกพ้องเพื่อนฝูง หรือเรียกว่า “ พันธมิตรทางธุรกิจ ” IronFX เพราะเพื่อนฝูงทางธุรกิจ...