หลักสูตร ฝึกอบรม วิเคราะห์ ออกแบบ ภาพรวมกระบวนการด้วย SIPOC เพื่อ ประสิทธิภาพสูงสุด เป็น การวิเคราะห์ กระบวนการทำงาน แบบภาพรวม เพื่อใช้ในการเพิ่มผลผลิตในการทำงาน เพื่อ นำไป สร้างผลผลิตให้ในการทำงาน
หลักสูตร ฝึกอบรม วิเคราะห์ ออกแบบ ภาพรวมกระบวนการด้วย SIPOC เพื่อ ประสิทธิภาพสูงสุด
ทำไม หลักสูตร ฝึกอบรม วิเคราะห์ ออกแบบ ภาพรวมกระบวนการด้วย SIPOC เพื่อ ประสิทธิภาพสูงสุด ถึงเหมาะกับ ผู้จัดการ และ พนักงาน ทุกคน
- เรียนกับวิทยากรมีประสบการขายจริง มากกว่า 25 ปี
- เคยทำยอดขายได้มากกว่า 1,000 ล้านบาทต่อปี
- เป็น Top Sales ด้วยเทคนิคการขายเฉพาะตัว ที่พร้อมจะถ่ายทอดให้ทุกคนได้รู้ และทำตามแบบจับมือทำ
- จบเรื่องการขายโดยตรงจาก มหาวิทยาลัย ซานฟรานซิสโก ประเทศอเมริกา
- เคยทำตำแหน่งผู้บริหารมาก่อน ทำให้มองมุมกว้างของธุรกิจได้เป็นอย่างดี
- เน้นการฝึกปฏิบัติ มากกว่า ทฤษฎี
- มีเครื่องมือ Sales Move Analysis ช่วยให้ วางแผนการขายได้เป็นอย่างดี
- มีขั้นตอนการขายที่ชัดเจน ทำให้ทุกคนนำไปใช้ได้ในการขายได้เลย
- ใช้เวลาไม่มาก แต่ได้ผลเป็นอย่างดี
- หลักสูตรนี้ เหมาะแก่การ อบรมพนักงานขายทั้งมีประสบการณ์และไม่มประสบการณ์
- วิทยากรรู้จริง ทั้งทำงานขายมาก่อน และ อบรมพนักงานขายมานานมาก ทำให้รู้ทุกแง่มุมของการขาย
5 ประโยชน์ ใน การนำการ วิเคราะห์ ออกแบบ ภาพรวมกระบวนการด้วย SIPOC เพื่อ ประสิทธิภาพสูงสุด มาใช้
1. ช่วยกำหนด ภาพรวมกระบวนการ SIPOC
ไดอะแกรม ตาราง SIPOC จะให้ภาพรวมของกระบวนการ ไดอะแกรมนี้เน้นที่ซัพพลายเออร์ ปัจจัยนำเข้า กิจกรรมสำคัญ ปัจจัยส่งออก และลูกค้า สร้างไดอะแกรม SIPOC เป็นจุดเริ่มต้นเมื่อออกแบบกระบวนการใหม่หรือเมื่อพยายามปรับปรุงกระบวนการที่มีอยู่
เรียนรู้ว่าการจัดการกระบวนการทางธุรกิจสามารถช่วยให้องค์กรของคุณออกแบบวิธีการทำงานที่สอดคล้องกันเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพได้อย่างไร
อ่านที่นี่
2. ช่วยระบุปัญหา
ประโยชน์อีกประการหนึ่งคือสามารถช่วยระบุปัญหาภายในกระบวนการได้ เริ่มต้นด้วยการทำแผนที่กระบวนการและระบุซัพพลายเออร์ ปัจจัยนำเข้า ปัจจัยส่งออก และลูกค้า ใช้ไดอะแกรมนี้ในเซสชันการแก้ปัญหากับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเพื่อช่วยค้นหาปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ ตัวอย่างเช่น ความล่าช้าในกระบวนการอาจเกิดจากปัญหาของซัพพลายเออร์รายหนึ่ง
3. ช่วยปรับปรุงการสื่อสาร
ภาพรวม ไดอะแกรม SIPOC ยังช่วยปรับปรุงการสื่อสารภายในองค์กรได้อีกด้วย ช่วยให้ผู้คนเข้าใจตรงกันโดยการทำแผนที่กระบวนการอย่างชัดเจนและระบุผู้มีส่วนได้ส่วนเสียต่างๆ ข้อมูลนี้ช่วยให้แน่ใจว่าสมาชิกในทีมทุกคนทำงานไปสู่เป้าหมายเดียวกัน ซึ่งอาจมีประโยชน์อย่างยิ่งในองค์กรขนาดใหญ่ที่อาจมีแผนกและบุคคลต่างๆ มากมายที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการ
4. ช่วยลดของเสีย
ประโยชน์อีกประการหนึ่งคือสามารถช่วยลดของเสียในกระบวนการ ภาพรวม SIPOC มอบมุมมองระดับสูงที่ยอดเยี่ยมของกระบวนการ มุมมองนี้ช่วยให้ระบุพื้นที่ที่อาจมีขั้นตอนที่ไม่จำเป็นหรือข้อมูลซ้ำซ้อนได้ง่ายขึ้น SIPOC มักใช้ในโครงการ Lean Six Sigma เพื่อปรับกระบวนการให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
5. สามารถใช้ได้หลายวัตถุประสงค์
ไดอะแกรม ภาพรวม SIPOC สามารถใช้ ใน การปรับปรุงกระบวนการ ได้หลายวัตถุประสงค์ นอกจากจะใช้สำหรับการปรับปรุงกระบวนการแล้ว ยังสามารถใช้ในหลายพื้นที่ได้อีกด้วย เช่น การฝึกอบรมพนักงานใหม่ การจัดการโครงการ การทำความเข้าใจความต้องการของลูกค้า หรือการจัดทำเอกสารเกี่ยวกับกระบวนการที่มีอยู่
เหตุผลที่ พนักงานส่วนใหญ่ตัดสินใจเลือกอบรม หลักสูตร ฝึกอบรม วิเคราะห์ ออกแบบ ภาพรวมกระบวนการด้วย SIPOC เพื่อ ประสิทธิภาพสูงสุด
1.ในการทำงาน กระบวนการเป็นเรื่องสำคัญมาก ๆ เพราะ ผม ทำงานมาหลายปี ที่บริษัทจะเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ลดของเสีย โดยการนำการวิเคราะห์ กระบวนการ ในภาพรวม SIPOC มาใช้ ได้ผลมากจริง
2.พนักงาน และผู้จัดการ ที่ต้องการหาเครื่องมือในการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน SIPOC ทำให้องค์กร ที่ต้องการวิเคราะห์กระบวนการในภาพรวม มาถูกทาง
3.ชอบการ คิดวิเคราะห์และการแก้ปัญหา กระบวนการที่เป็นขั้นเป็นตอน เริ่มต้นตั้งแต่ ปรับความรู้พื้นฐาน จนประยุกต์มาใช้ในการทำงาน ได้จริงในการทำงานขาย
4. ดร.สุรชัย เป็นวิศวกร ทำให้เข้าให้เทคนิค การวิเคราะห์ กระบวนการทำงานที่เป็นภาพรวม ด้วยเครื่องมือ SIPOC ซึ่งดีมาก ๆ ในการนำงานจริงวิเคราะห์ ทำให้ไม่ต้องคิดมาก เข้าใจง่าย
5. ดร.สุรชัย โฆษิตบวรชัย มีกรณีศึกษา ในการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ขององค์กรชั้นนำ มาแลกเปลี่ยนประสบการณ์ เป็นประโยชน์มาก เรียนสนุกมาก ๆ
6.เป็นการ Up Skills และ Re Skills ได้ดีมาก ๆ โดยเฉพาะ ของพนักงานและผู้จัดการ ทำให้มีหลักในการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน มีการ วิเคราะห์ ดัชนีชี้วัด KPI ได้ง่ายขึ้น
7.ได้ขั้นตอนการ การวิเคราะห์ กระบวนการในภาพรวม แบบ SIPOC มีเทคนิคการสื่อสาร ทำให้ทุกฝ่ายเข้าใจง่าย ไม่กังวลใจอีกต่อไป
8.มีเครื่องมือการวิเคราะห์ กระบวนการในการทำงาน แบบภาพรวม ซึ่ง SIPOC มีเทคนิคในการวิเคราะห์ที่ดี เป็นขั้นเป็นตอน ลดต้นทุนได้เป็นอย่างดี ทำงานประสานงาน ร่วมกัน ได้เป็นอย่างดี
7. เทคนิคการวิเคราะห์ภาพรวม กระบวนการทำงาน ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป เพราะมีเครื่องมือในการวิเคราะห์ ออกแบบ วางแผนที่ชัดเจน ทำให้การทำงานง่ายขึ้น
8.ดร.สุรชัย โฆษิตบวรชัย เป็นวิศวกร ในองค์กรใหญ่มาก่อน ทำให้เข้าใจ โครงสร้างการ วิเคราะห์กระบวนการ ภาพรวม ที่ชัดเจน ทำให้เข้าใจหลัก SIPOC ในการบริหารขั้นตอนในการทำงานเป็นอย่างดี
9. มีเทคนิคการ วิเคราห์ กระบวนการ ทำงานแบบภาพรวม ทำให้ นำ SIPOC มาใช้ได้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนในการผลิต และมี แนวคิดนอกกรอบ
10.บางครั้งการประชุมกันในสำนักงาน หาข้อสรุปไม่ได้ เพราไม่มีเครื่องมือ มาใช้ แต่หลังจากการอบรม การวิเคราะห์ ภาพรวมการทำงาน SIPOC ทำให้ทุกคนในบริษัท ประชุมกันในทิศทางเดียวกัน
11.ทำงานฝ่ายผลิต เป็นผู้จัดการฝ่าย ต้องดูแลการเพิ่มประสิทธิภาพของแผนก เมื่อก่อนไม่มีเครื่องมือในการเพิ่มประสิทธิภาพ ทำให้พนักงานขายในทีม สับสน แต่หลังจากการ อบรม SIPOC ดีมาก นำไปใช้ได้เลย
12.เป็นผู้จัดการฝ่าย อยากได้เครื่องมือในการเพิ่มประสิทธิ ภาพ บริษัท อยากทำ Six Sigma และ LEAN ตอนนี้ไม่กลัวแล้วครับ
13.เป็นพนักงานฝ่ายผลิต ในตำแหน่ง วิศวกร ต้อง ออกแบบ วางแผนทุกวัน ใช้ ความคิดเชิงตรรกะ ตอนนี้ มีเครื่องมือ ที่เป็น โมเดล SIPOC ได้ดียิ่งขึ้น เข้าใจการวิเคราะห์กระบวนการในภาพรวมมากขึ้น
14. อาจารย์ สุรชัย มีกรณีศึกษา และ การฝึก ด้วยเทรมเพลสจริงมาใช้ในการทำงาน ทำให้เข้าใจ การวิเคราะห์กระบวนการทำงานในภาพรวมได้เป็นอย่างดี อาจารย์ สุรชัย สอนได้ สนุกมาก มีข้อมูลลึกซึ่งมาก ใน การบริหารผลสำเร็จของเป้าหมาย ในการทำงาน ขอบคุณมาก ๆ
15.มีเครื่องมือในการบริหารกระบวนการทำงาน ที่ชัดเจน ไม่สับสน คิดเป็นขั้นตอน ทำงานง่ายขึ้นมาก
16.เป็น วิศวกรฝ่ายผลิต มาหลายปี เมื่อก่อนคิดว่า การวิเคราะห์ กระบวนการทำงาน เป็นภาพรวม เป็นเรื่องยาก ทำให้ ทำงานเป็นแบบเดิม ๆ แต่หลังจากมาเรียน การวิเคราะห์ กระบวนการทำงาน SIPOC ทำให้ เพิ่มประสิทธิ ภาพในการทำงานได้ดีขึ้น มีกำลังใจ ให้สู้งานหนักมากขึ้น
17.ชอบ การวิเคราะห์จากการนำงานจริงมาใช้ เป็นการเรียนแบบนำงานของตนเองจริงมาใช้ในการวิเคราะห์ ทำให้เห็นภาพรวมที่ชัดเจน ขอบคุณ ผู้จัดการฝ่ายการผลิต ที่บริษัท ที่ส่งมาเรียน SIPOC ดีมาก ๆ ครับ
18.เป็นการเรียนเรื่องการวิเคราะห์ ภาพรวมกระบวนการทำงานที่ดี เรียนสนุก ตื่นเต้น ได้ข้อมูลที่ดี เพราะการเข้าอบรม อาจารย์จะมีกิจกรรม มาก ทำให้เรียนแล้ว สนุก ไม่นาเบื่อและเข้าใจง่ายในการพัฒนา
19.เนื้อหา หลักสูตร ฝึกอบรม การวิเคราะห์ ออกแบบ ภาพรวมกระบวนการด้วย SIPOC เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด มีเครื่องมือในการวางแผน วิเคราะห์ เป็นขั้นตอน ชอบมาก เรียงลำดับขั้นตอน ที่เข้าใจง่ายได้เป็นอย่างดี ทำให้มีการทำงานมีเป้าหมาย ที่ชัดเจนในการพัฒนาทักษะการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน
20.เข้าใจขั้นตอน เทคนิค การวิเคราะห์ ออกแบบ ภาพรวมกระบวนการด้วย SIPOC เทคนิคการบริหารลูกค้า ทำให้เข้ากับลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น
21.มีการสอน พื้นฐาน การวางแผนกลยุทธ์ทางธุรกิจ เพื่อความเป็นเลิศ สามารถนำมาใช้ในการวางแผน การวิเคราะห์ ออกแบบ ภาพรวมกระบวนการด้วย SIPOC ได้เป็นอย่างดี
หลักสูตร ฝึกอบรม วิเคราะห์ ออกแบบ ภาพรวมกระบวนการด้วย SIPOC เพื่อ ประสิทธิภาพสูงสุด
หมายเหตุ: หลักสูตรนี้เป็นหลักสูตรที่ประยุกต์มาจากหลักสูตร Expert Selling จาก University of San Francisco ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยวิทยากรได้รับ Certificate of Expert Selling Program, Certificate of Expert Sales Management Program และ Certificate of Transitioning to Sales Management Program
หลักการและเหตุผล การวิเคราะห์ ออกแบบ
ภาพรวมกระบวนการด้วย SIPOC
การวิเคราะห์ ออกแบบ ภาพรวมกระบวนการด้วย SIPOC เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด สามารถ พัฒนาประสิทธิภาพในการทำงานสูงสุด ซึ่งในแต่ละองค์กรจำเป็นต้องมีกระบวนการทำงานที่ชัดเจน โดยมีการวิเคราะห์ภาพรวมกระบวนการทำงาน ซึ่งในหลายองค์กร ที่ไม่ประสบความสำเร็จในการเพิ่มผลผลิตให้ตนเอง เพราะกระบวนการทำงานที่มีอยู่ ไม่ชัดเจนทำให้มักเกิดปัญหาด้านประสิทธิภาพ เช่น ความล่าช้า การทำงานที่ซ้ำซ้อน การใช้ทรัพยากรอย่างไม่คุ้มค่า หรือการไม่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปัญหาในการให้บริการลูกค้า ซึ่งปัญหาเหล่านี้ อาจเกิดจากสาเหตุต่าง ๆ เช่น
- การขาดความชัดเจนในกระบวนการทำงาน – หลายองค์กรไม่มีการกำหนดโครงสร้างหรือขั้นตอนการทำงานที่ชัดเจน ทำให้เกิดความคลาดเคลื่อนในการดำเนินงาน
- การส่งต่อข้อมูลและงานที่ไม่มีประสิทธิภาพ – การทำงานระหว่างแผนกอาจเกิดความล่าช้าหรือข้อมูลที่ส่งต่อไม่ครบถ้วน ทำให้เกิดข้อผิดพลาด
- การขาดการวิเคราะห์เชิงลึก – บ่อยครั้งองค์กรปรับปรุงกระบวนการทำงานโดยไม่มีข้อมูลเชิงวิเคราะห์รองรับ ส่งผลให้การปรับปรุงไม่ตรงจุด
- การมุ่งเน้นแต่ผลลัพธ์โดยไม่คำนึงถึงกระบวนการ – หลายองค์กรเน้นเป้าหมายสุดท้ายโดยละเลยปัจจัยสำคัญ เช่น ประสิทธิภาพของกระบวนการและความพึงพอใจของลูกค้า
ปัญหาข้างต้น หากองค์กรใด ยังคงเพิกเฉย ไม่ให้ความสำคัญอย่างจริงจัง จะส่งผลให้การทำงานไม่มีประสิทธิ ภาพ มีของเสียต่าง ๆ เกิดขึ้นมากมายเช้นของเสียอันเกิดจากการรอคอย ของเสียที่เป็นของเสีย เป็นต้น ในการพัฒนาและปรับปรุงกระบวนการทำงานขององค์กร จำเป็นต้องมีเครื่องมือที่ช่วยใน การวิเคราะห์ ออกแบบ ภาพรวมกระบวนการด้วย SIPOC เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อให้มองเห็นภาพรวมของกระบวน การได้อย่างเป็นระบบ เป็นขั้นเป็นตอน เพื่อการวิเคราะห์กระบวนการทำงาน ของแผนพัฒนาองค์กร ที่เป็นรูปธรรม จับต้องได้ SIPOC (Supplier – Input – Process – Output – Customer) เป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญที่ใช้ใน Lean Six Sigma และ Process Improvement ซึ่งช่วยให้สามารถวิเคราะห์และระบุปัจจัยที่มีผลต่อประสิทธิภาพของกระบวนการได้อย่างแม่นยำ
ความเป็นมา การวิเคราะห์ ออกแบบ
ภาพรวมกระบวนการด้วย SIPOC
เหตุผลที่ องค์กรชั้นนำ ที่มุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพนิยมใช้ การวิเคราะห์ ออกแบบ ภาพรวมกระบวนการด้วย SIPOC เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด ในการวิเคราะห์กระบวนการทำงาน
1.ช่วยให้เห็นภาพรวมของกระบวนการ (Big Picture View)
-
- การวิเคราะห์ ออกแบบ ภาพรวมกระบวนการด้วย SIPOC เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด เป็นแผนภาพที่ช่วยให้เข้าใจ โครงสร้างของกระบวนการทำงานตั้งแต่ต้นจนจบ โดยแสดงให้เห็นว่า ใครเป็นผู้ส่งมอบ (Supplier), ต้องใช้ปัจจัยนำเข้า (Input) อะไรบ้าง, กระบวนการดำเนินงานเป็นอย่างไร (Process), ผลลัพธ์ของกระบวนการ (Output) คืออะไร และ ใครเป็นผู้รับผลลัพธ์ (Customer)
2.ช่วยระบุจุดที่เป็นปัญหาได้อย่างชัดเจน
-
-
- การวิเคราะห์ ออกแบบ ภาพรวมกระบวนการด้วย SIPOC เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด ช่วยให้สามารถวิเคราะห์ว่า ปัญหาเกิดขึ้นที่จุดใดของกระบวนการ เช่น
- ข้อมูลหรือวัตถุดิบที่ได้รับจาก Supplier ไม่มีคุณภาพ
- กระบวนการทำงานล่าช้าหรือซ้ำซ้อน
- ผลลัพธ์ที่ได้ไม่ตรงกับความต้องการของลูกค้า
- การวิเคราะห์ ออกแบบ ภาพรวมกระบวนการด้วย SIPOC เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด ทำให้สามารถ เจาะลึกสาเหตุของปัญหาและแก้ไขได้อย่างตรงจุด
- การวิเคราะห์ ออกแบบ ภาพรวมกระบวนการด้วย SIPOC เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด ช่วยให้สามารถวิเคราะห์ว่า ปัญหาเกิดขึ้นที่จุดใดของกระบวนการ เช่น
-
3.เป็นเครื่องมือพื้นฐานที่ใช้ร่วมกับเครื่องมืออื่นในการปรับปรุงกระบวนการ
-
- การวิเคราะห์ ออกแบบ ภาพรวมกระบวนการด้วย SIPOC เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด สามารถใช้เป็นจุดเริ่มต้นในการนำ Lean, Six Sigma, PDCA, หรือ Value Stream Mapping (VSM) มาใช้เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพของกระบวนการ
4.ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการสื่อสารและทำงานร่วมกัน
-
- การวิเคราะห์ ออกแบบ ภาพรวมกระบวนการด้วย SIPOC เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเข้าใจตรงกัน เกี่ยวกับกระบวนการทำงาน ทำให้สามารถวางแผนและตัดสินใจในการปรับปรุงกระบวนการได้อย่างมีประสิทธิภาพ
5.ช่วยให้องค์กรสามารถพัฒนาแผนงานได้อย่างมีทิศทาง
-
- การใช้ การวิเคราะห์ ออกแบบ ภาพรวมกระบวนการด้วย SIPOC เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด ในการวิเคราะห์กระบวนการทำงานช่วยให้สามารถออกแบบแผนพัฒนาองค์กรที่มีความชัดเจน ลดความเสี่ยงในการดำเนินโครงการ และเพิ่มโอกาสในการปรับปรุงผลลัพธ์ขององค์กรให้เป็นไปตามเป้าหมาย
การวิเคราะห์ภาพรวมกระบวนการด้วย SIPOC เป็นเครื่องมือสร้างแผนที่กระบวนการระดับสูง แบบองค์รวม ที่ช่วยให้เห็นภาพกระบวนการและอิทธิพลของกระบวนการ มองเห็นจุดออ่อน จุดแข็งของกระบวนการในการทำงาน เพื่อให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น กล่าวอีกนัยหนึ่ง เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ที่อธิบายวิธีที่กระบวนการให้บริการลูกค้า และแสดงอินพุตและเอาต์พุตของกระบวนการในรูปแบบภาพ ซึ่ง SIPOC ย่อมาจาก Supplier, Input, Process, Output และ Customer อย่างไรก็ตาม การสร้าง SIPOC เกี่ยวข้องกับการระบุกระบวนการ การกำหนดเอาต์พุตของกระบวนการ การรับรู้ลูกค้าที่ได้รับเอาต์พุต การค้นหาอินพุต และการค้นหาซัพพลายเออร์ของอินพุต
องค์ประกอบสำคัญของการ การวิเคราะห์ภาพรวมกระบวนการด้วย การวิเคราะห์ ออกแบบ ภาพรวมกระบวนการด้วย SIPOC เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด มีดังต่อไปนี้
1.Supplier (S): ผู้ส่งมอบ
-
- บุคคลหรือหน่วยงานที่จัดหาปัจจัยนำเข้าให้กับกระบวนการ เช่น แผนกอื่นภายในองค์กร, ผู้จัดหาวัตถุดิบ, ลูกค้าภายใน ฯลฯ
2.Input (I): ปัจจัยนำเข้า
- วัสดุ ข้อมูล หรือทรัพยากรที่ต้องใช้ในกระบวนการ เช่น ข้อมูลลูกค้า, วัตถุดิบ, เทคโนโลยี, บุคลากร ฯลฯ
3.Process (P): กระบวนการทำงาน
- ขั้นตอนการดำเนินงานที่แปลง Input ให้เป็น Output ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ต้องได้รับการวิเคราะห์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ
4.Output (O): ผลลัพธ์ของกระบวนการ
- ผลลัพธ์ที่ได้จากกระบวนการ เช่น สินค้า, บริการ, ข้อมูล หรือเอกสารสำคัญที่ส่งต่อไปยังลูกค้า
5.Customer (C): ลูกค้าหรือผู้รับผลลัพธ์
- ผู้ที่ได้รับผลลัพธ์จากกระบวนการ ซึ่งอาจเป็นลูกค้าภายในองค์กร (Internal Customer) หรือ ลูกค้าภายนอก (External Customer)
หลักสูตร ฝึกอบรม การวิเคราะห์ ออกแบบ ภาพรวมกระบวนการด้วย SIPOC เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด เป็นหลักสูตรมาตรฐานที่ถูกออกแบบตามแนวทางการพัฒนาประสิทธิภาพในการทำงาน ด้วยการวิเคราะห์ภาพรวมกระบวนการทำงาน เพื่อให้นำไปใช้ในการพัฒนากระบวนการทางความคิด พัฒนาประสิทธิภาพในการทำงาน และการนำเครื่องมือไปใช้ในการทำงานไปใช้ เพื่อสร้างประสิทธิภาพในการทำงานของพนักงานในกระบวนการของการทำงานทุกขั้นตอน ซึ่งประกอบไปด้วยการวิเคระห์กระบวนการทำงานด้วย SIPOC สร้างความเชื่อมั่นร่วมกัน เพื่อสร้างประสิทธิผลสูงสุดในการทำงาน
วัตถุประสงค์ของ หลักสูตร ฝึกอบรม การวิเคราะห์ ออกแบบ ภาพรวมกระบวนการด้วย SIPOC เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด
- มองเห็นภาพรวมของกระบวนการทำงานและจุดที่ควรปรับปรุง ด้วย การวิเคราะห์ ออกแบบ ภาพรวมกระบวนการด้วย SIPOC เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด และเป็นพื้นฐาน การวางแผนกลยุทธ์ เพื่อความเป็นเลิศทางธุรกิจ
- ระบุปัจจัยที่มีผลกระทบต่อคุณภาพของผลลัพธ์ได้อย่างแม่นยำ
- ปรับปรุงการทำงาน การคิดเชิงวิเคราะห์ ให้สอดคล้องกับเป้าหมายของแผนพัฒนาองค์กร
- ลดข้อผิดพลาดและเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน ด้วย การบริหารเวลา ที่มีประสิทธิภาพ
- ระบุกระบวนการ: ระบุกระบวนการที่จะสร้าง SIPOC ระบุกระบวนการเป็นทีม
- กำหนดขั้นตอนกระบวนการ: กระบวนการคือลำดับกิจกรรมที่กำหนดไว้ซึ่งโดยปกติจะเพิ่มมูลค่าให้กับอินพุตเพื่อผลิตผลลัพธ์ของลูกค้า
- ระบุเอาต์พุต: เอาต์พุตคือผลิตภัณฑ์ บริการ และ/หรือข้อมูลที่มีค่าสำหรับลูกค้า ซึ่งรวมถึงผลิตภัณฑ์ วัสดุ หรือบริการที่ส่งมอบให้กับลูกค้า
- ระบุลูกค้า: ลูกค้าคือผู้ใช้เอาต์พุตที่ผลิตโดยกระบวนการ นอกจากนี้ ลูกค้าไม่ได้อยู่ภายนอกองค์กรเสมอไป พวกเขาอาจเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียภายในก็ได้
- กำหนดอินพุตที่จำเป็นสำหรับกระบวนการ: อินพุตกำหนดวัสดุ บริการ และ/หรือข้อมูลที่ใช้ในการผลิตผลลัพธ์ อินพุตมีบทบาทสำคัญ เนื่องจากความแปรผันของอินพุตมีผลกระทบต่อผลลัพธ์
- ระบุซัพพลายเออร์: ซัพพลายเออร์จัดเตรียมอินพุตให้กับกระบวนการ ไม่ใช่แค่ซัพพลายเออร์ภายนอกเท่านั้น คุณควรครอบคลุมซัพพลายเออร์ภายในด้วย
- ตรวจสอบความถูกต้องของไดอะแกรม: เมื่อทำเสร็จแล้ว ให้แชร์กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่เกี่ยวข้องทั้งหมดและตรวจสอบความถูกต้องก่อนจะดำเนินการในขั้นตอนการปรับปรุงกระบวนการ
ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับจาก หลักสูตร ฝึกอบรม การวิเคราะห์ ออกแบบ ภาพรวมกระบวนการด้วย SIPOC เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด
- เข้าใจกระบวนการทำงานที่ควรจะเป็น จากการวิเคราะห์กระบวนการทำงาน เพื่อช่วยกำหนดกระบวนการทำงานใหม่
- มองเห็นภาพรวมการทำงาน ทำให้เห็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมด การกั้ปญหาจะได้ตรงจุด
- วิเคราะห์ข้อมูล จากกระบวนการทำให้เห็นภาพรวมโครงการระดับสูง เพื่อรายงานแก่ผู้บริหารระดับสูง
- มีแนวทางที่จะเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ด้วยการริเริ่มแก้ไขปัญหาแบบใหม่ ๆ ที่ตรงจุด
- ให้ข้อมูลอินพุตและเอาต์พุต สำหรับกระบวนการที่สำคัญ ทำให้มีความเหมาะสมในการเพิ่มประสิทธิภาพ
- ช่วยให้มั่นใจว่า จะมองภาพรวมของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมดอยู่ในหน้าเดียวกัน
- สามารถนำแนวทางที่เรียนรู้ที่เรียนเกี่ยวกับ การวิเคราะห์ภาพรวมกระบวนการด้วย SIPOC เพื่อประ สิทธิภาพสูงสุด ไปประยุกต์ใช้ในองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ผลที่คาดว่าจะได้รับ ที่เข้าอบรมจะได้รับ-ผู้เรียนจะสามารถ:
การเข้ารับการอบรม หลักสูตร ฝึกอบรม การวิเคราะห์ ออกแบบ ภาพรวมกระบวนการด้วย SIPOC เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด จะช่วยให้ผู้เข้าอบรมได้รับความรู้ ทักษะ และแนวทางปฏิบัติที่สามารถนำไปใช้ได้จริงในการพัฒนากระบวนการทำงานขององค์กร โดยประโยชน์ที่ได้รับมีดังนี้
- เข้าใจและสามารถใช้ SIPOC ในการวิเคราะห์กระบวนการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ผู้เข้าอบรมสามารถสร้าง SIPOC Diagram ได้อย่างถูกต้องและเข้าใจโครงสร้างของกระบวนการทำงานตั้งแต่ต้นจนจบ
- สามารถระบุได้ว่าจุดไหนของกระบวนการที่ต้องได้รับการปรับปรุงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ
- ช่วยให้มองเห็นภาพรวมของกระบวนการทำงานอย่างเป็นระบบ
- ทำให้สามารถ แยกแยะบทบาทของ Supplier, Input, Process, Output และ Customer ได้อย่างชัดเจน
- ลดความสับสนและปัญหาที่เกิดจากการสื่อสารที่ไม่ชัดเจนภายในองค์กร
- ช่วยให้การปรับปรุงกระบวนการทำงานเป็นไปอย่างตรงจุดและมีประสิทธิภาพ
- สามารถระบุปัญหาและจุดอ่อนของกระบวนการได้รวดเร็วขึ้น
- ลดความสูญเปล่าทางเวลาและทรัพยากร โดยสามารถกำหนดแนวทางแก้ไขปัญหาที่เหมาะสม
- เพิ่มประสิทธิภาพและคุณภาพของผลลัพธ์ที่ได้จากกระบวนการ
- กระบวนการที่ได้รับการปรับปรุงจะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ตรงตามความต้องการของลูกค้ามากขึ้น
- ลดข้อผิดพลาดและปัญหาที่เกิดจากกระบวนการที่ไม่มีประสิทธิภาพ
- เสริมสร้างแนวคิดเชิงวิเคราะห์และการคิดเชิงระบบให้กับผู้เข้าอบรม
- ช่วยให้ผู้เข้าอบรม พัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ (Analytical Thinking) และการแก้ปัญหาอย่างมีเหตุผล
- เพิ่มความสามารถในการตัดสินใจโดยใช้ข้อมูลที่มีความแม่นยำ
- สามารถนำ SIPOC ไปใช้ร่วมกับเครื่องมือปรับปรุงกระบวนการอื่น ๆ ได้
- SIPOC เป็นเครื่องมือพื้นฐานที่สามารถนำไปใช้ร่วมกับ Lean, Six Sigma, PDCA, และ Value Stream Mapping (VSM) ได้
- เพิ่มประสิทธิภาพในการพัฒนาและปรับปรุงกระบวนการทำงานให้มีมาตรฐานและตอบโจทย์องค์กร
- สร้างการทำงานเป็นทีมและเพิ่มประสิทธิภาพในการสื่อสารในองค์กร
- ทำให้แผนกต่าง ๆ สามารถทำงานร่วมกันได้ดีขึ้น เพราะมีความเข้าใจที่ตรงกันเกี่ยวกับกระบวนการทำงาน
- ลดปัญหาความขัดแย้งที่เกิดจากความไม่ชัดเจนของหน้าที่และความรับผิดชอบ
- ส่งเสริมการพัฒนาองค์กรและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน
ทำให้องค์กรสามารถปรับปรุงกระบวนการทำงานให้มีประสิทธิภาพ ลดต้นทุน ลดเวลา และเพิ่มคุณภาพของบริการหรือผลิตภัณฑ์
ส่งเสริมให้เกิด Continuous Improvement (การปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง) ทำให้องค์กรมีความสามารถในการแข่งขันในระยะยาว
โมดูลที่ 1. การทำความเข้าใจ การวิเคราะห์ ออกแบบ ภาพรวมกระบวนการด้วย SIPOC เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด SIPOC อย่างลึกซึ้ง
1.1 ความหมายของ SIPOC ซึ่งเป็นแผนภาพที่ใช้แสดงองค์ประกอบหลักของกระบวนการทำงาน โดยช่วยให้สามารถมองเห็นโครงสร้างของกระบวนการแบบครบวงจร
- S – Supplier (ผู้ส่งมอบ): บุคคลหรือหน่วยงานที่จัดหาปัจจัยนำเข้าหรือทรัพยากรให้กับกระบวนการ
- I – Input (ปัจจัยนำเข้า): วัสดุ ข้อมูล หรือองค์ประกอบที่จำเป็นต้องใช้ในกระบวนการ
- P – Process (กระบวนการทำงาน): ขั้นตอนที่ใช้ในการเปลี่ยน Input ให้กลายเป็น Output
- O – Output (ผลลัพธ์ของกระบวนการ): ผลิตภัณฑ์ บริการ หรือผลลัพธ์ที่ได้จากกระบวนการ
- C – Customer (ลูกค้า/ผู้รับผลลัพธ์): บุคคล หน่วยงาน หรือกลุ่มที่ได้รับผลลัพธ์จากกระบวนการ
1.2 ความสำคัญของ SIPOC เพื่อการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน
- เข้าใจภาพรวมของกระบวนการ และสามารถเห็นจุดที่ต้องปรับปรุง
- ระบุว่า ปัญหาของกระบวนการอยู่ที่ส่วนใด เช่น ปัจจัยนำเข้าไม่มีคุณภาพ หรือกระบวนการทำงานไม่มีประสิทธิภาพ
- เป็นเครื่องมือพื้นฐานที่สามารถใช้ร่วมกับ Lean, Six Sigma, PDCA และ Kaizen
โมดูลที่ 2: วิธีการสร้าง แผนผัง การวิเคราะห์ ออกแบบ ภาพรวมกระบวนการด้วย SIPOC เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด
2.1 การกำหนดขอบเขตของกระบวนการ (Define Process Scope)
- ระบุว่ากระบวนการที่ต้องการวิเคราะห์คืออะไร และมีขอบเขตแค่ไหน
- กำหนด จุดเริ่มต้น และ จุดสิ้นสุด ของกระบวนการ
Workshop
– ฝึกเขียนแผนผังและกระบวนการในรูปแบบ SIPOC
- กรณีศึกษา ชมวีดีทัศน์ ความเป็นมืออาชีพ จัดทำ Work Shop ประชุมกลุ่ม
โมดูลที่ 3: เทคนิคการใช้ การวิเคราะห์ ออกแบบ ภาพรวมกระบวนการด้วย SIPOC ในการปรับปรุงกระบวนการทำงาน
- ประเภทของข้อมูลที่ต้องนำมาใช้ในการวิเคราะห์
- เทคนิคการเก็บข้อมูล การวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อประโยชน์สูงสุดในการเพิ่มประสิทธิภาพ
3.1 การใช้ SIPOC ร่วมกับ Lean & Six Sigma
- ใช้ SIPOC เป็นเครื่องมือพื้นฐานเพื่อ ลดความสูญเปล่า (Waste) และเพิ่มคุณภาพของกระบวนการ
- ใช้ SIPOC เป็นแนวทางใน Define Phase ของ Six Sigma (DMAIC) เพื่อกำหนดปัญหาและหาทางแก้ไขที่เป็นอุปสรรคในการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน
3.2 การใช้ SIPOC กับ PDCA (Plan-Do-Check-Act)
- Plan – วิเคราะห์กระบวนการด้วย SIPOC และระบุจุดที่ต้องปรับปรุง
- Do – ทดสอบแนวทางการปรับปรุง
- Check – ตรวจสอบผลลัพธ์ของการปรับปรุง
- Act – นำแนวทางที่ได้ผลไปใช้เป็นมาตรฐานขององค์กร
3.3 การประยุกต์ SIPOC ไปใช้ในองค์กรจริง
- ใช้ SIPOC ในการ วิเคราะห์กระบวนการของแผนกต่าง ๆ เช่น ฝ่ายผลิต, ฝ่ายบริการลูกค้า, ฝ่ายจัดซื้อ
- นำไปใช้ในการ ลดความผิดพลาด ลดเวลา และเพิ่มประสิทธิภาพของการทำงาน
โมดูลที่ 4 จัดทำ Work Shop
ฝึกปฏิบัติ SIPOC ในการปรับปรุงกระบวนการทำงาน ประชุมกลุ่ม สรุป และจัดทำแผนปฏิบัติการรายบุคคล และให้คำแนะนำจากวิทยากร
![]()
















































