Bench-marking คืออะไร?
“การประยุกต์ Bench-Marking ไปใช้ คือ การนำกระบวนการจัดทำ Bench-marking ที่ได้รับความรู้มา เพื่อนำไปใช้ในการจัดทำ Bench-marking ภายในองค์กร ทำให้พนักงานทุกคน มีเครื่องมือในการจัดทำ Bench-marking ได้ตรงกับเป้าหมายที่องค์กรต้องการ”
ขั้นตอนการทำ Bench-marking อย่างมืออาชีพ
ดร.กฤษฎา ตันเปาว์
กระบวนการ Bench-marking
Bench-marking เป็นกระบวนการที่ใช้ในการวัด ผลสำเร็จของงาน เช่น การเทียบความสำเร็จของบริษัทกับบริษัทอื่นๆ ที่คล้ายคลึงกัน เพื่อดูประสิทธิภาพที่บริษัทสามารถทำได้
เป้าหมายของการทำ Bench-marking และชนิดของ Bench-marking ก็เพื่อนำผลลัพธ์มาใช้ในการปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงาน ให้ดีขึ้น ลดจุดอ่อนที่เป็นปัญหาอุปสรรค การทำ Bench-marking เทียบกับบริษัทอื่นๆ สามารถเน้นย้ำถึงสิ่งที่ต้องปรับปรุงประสิทธิภาพของบริษัทเราและต้องการที่จะเติบโต ในอุตสาหกรรมที่เราทำอยู่
การทำ Bench-marking มีอยู่หลายแบบ ขึ้นกับความเหมาะสมในการนำไปใช้ในการทำงานของแต่ละองค์กร คนทำ Bench-marking จำเป็นต้องเข้าใจวิธีการและนวทางการทำ ที่ถูกต้อง
ประโยชน์ของBench-marking
การวิเคราะห์การแข่งขัน
ด้วยการระบุส่วนเราต้องการปรับปรุงในธุรกิจและเปรียบเทียบประสิทธิภาพที่มีอยู่กับคู่แข่ง ธุรกิจสามารถมุ่งมั่นที่จะปรับปรุงการดำเนินการเป็นสิบเท่า การใช้การ Bench-marking ด้วยวิธีนี้ช่วยให้ธุรกิจได้รับความได้เปรียบเชิงกลยุทธ์เหนือคู่แข่ง และเพิ่มค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรม
ตรวจสอบประสิทธิภาพ
Bench-marking เกี่ยวข้องกับการดูแนวโน้มปัจจุบันของข้อมูลและการฉายแนวโน้มในอนาคต ขึ้นอยู่กับเป้าหมายของคุณที่จะบรรลุผล เพื่อให้ทราบว่าคุณประสบความสำเร็จ Bench-marking ต้องเป็นกระบวนการที่ต่อเนื่อง การตรวจสอบประสิทธิภาพเป็นลักษณะเฉพาะของมัน
พัฒนาอย่างต่อเนื่อง
นอกจากประสิทธิภาพในการตรวจสอบแล้ว การปรับปรุงอย่างต่อเนื่องถือเป็นคุณลักษณะที่สำคัญของการ Bench-marking เนื่องจากเป้าหมายของBench-marking คือการปรับปรุงองค์ประกอบบางอย่างของธุรกิจ การปรับปรุงนี้ไม่ควรเป็นเพียงสิ่งที่ปรับปรุงเพียงครั้งเดียวและถูกลืม แต่เป็นสิ่งที่ปรับปรุงเมื่อเวลาผ่านไปและต่อเนื่อง
การวางแผนและการตั้งเป้าหมาย
เมื่อดำเนินการ Bench-marking แล้ว เป้าหมายและตัวชี้วัดประสิทธิภาพจะถูกตั้งขึ้นเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพ เป้าหมายเหล่านี้เป็นเป้าหมายใหม่ที่สามารถแข่งขันได้มากขึ้นสำหรับบริษัทแต่จะต้องทำให้สำเร็จได้ หากเป้าหมายไม่ชัดเจนที่จะบรรลุเป้าหมาย ทีมงานจะหมดกำลังใจและเป้าหมายก็ไม่บรรลุผล
ส่งเสริมการเป็นเจ้าของ
เมื่อบริษัทต่างๆ ดูกระบวนการและตัวชี้วัดของตน จำเป็นต้องถามคำถามยากๆ เพื่อให้ได้คำตอบทั้งหมดที่ต้องการ ซึ่งรวมถึงการพูดคุยกับทุกคนในธุรกิจและทำความเข้าใจบทบาทการทำงาน ด้วยการถามคำถามเหล่านี้และทำความเข้าใจบทบาทของทุกคนมากขึ้น จึงสนับสนุนให้มีความเป็นเจ้าของ ในกระบวนการและประสิทธิภาพการทำงาน
การเป็นเจ้าของ หมายความว่าพนักงานจะภาคภูมิใจในงานและงานที่พวกเขาทำ ความภาคภูมิใจนี้นำไปสู่ประสิทธิภาพที่ดีขึ้นและผลลัพธ์สุดท้ายที่มีคุณภาพสูงขึ้น
ทำความเข้าใจข้อดีของบริษัท
Bench-marking จะระบุว่าบริษัทของคุณอยู่ในจุดใดเมื่อBench-marking กับจุดที่คุณต้องการดำเนินไป หากคุณกำลังมองหาการปรับปรุงกระบวนการใดๆ ในธุรกิจของคุณ Bench-marking เป็นวิธีหนึ่งในการดูว่าคุณจะเก่งและประสบความสำเร็จมากขึ้นได้อย่างไร ผ่านการสรุปขั้นตอนที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุเป้าหมายของคุณ
ขั้นตอนการทำ Bench-marking อย่างมืออาชีพ
ดร.กฤษฎา ตันเปาว์
การทำ Bench-Marking นั้น เป็นเรื่องที่สำคัญของทุกองค์กร เพราะถ้าไม่เข้าใจขั้นตอนการจัดทำ Bench-Marking อาจะทำให้ผลที่ได้รับนั้นไม่ตรงกับวัตถุประสงค์ที่ตนเองอยากได้รับเท่ากับว่าไม่ตอบโจทย์องค์กร ก็ทำให้ไม่สามารถนำมาใช้ได้ อุตส่าห์ลงทุนลงแรงไปมากมาย อย่างนี้ก็น่าเสียดาย ขั้นตอนการทำ Bench-Marking มีขั้นตอนดังต่อไปนี้
1.การวางแผน (Planning)
– เป็นขั้นในการกำหนด หัวข้อเรื่อง วัตถุประสงค์ ประเด็นที่ต้องการเปรียบเทียบ ว่าองค์ประกอบใดที่ต้องการเปรียบเทียบเพื่อพัฒนา
– การกำหนดองค์การที่ต้องการเปรียบเทียบ ว่าจะเปรียบเทียบกับใคร ภายใน คู่แข่งภายนอก หรือพันธมิตรธุรกิจ
– กำหนดวิธีการเก็บข้อมูล โดยการตัดสินใจว่าจะเก็บข้อมูล แบบใด เชิงปริมาณ หรือ เชิงคุณภาพ เป็นแบบสอบถาม หรือ การสัมภาษณ์อย่างไร
2.การวิเคราะห์ (Analysis)
– วิเคราะห์ช่วงห่าง (Gap Analysis) ระหว่างส่วนที่จะเปรียบเทียบของเรา กับคู่เปรียบเทียบ
– คาดคะเน และการตั้งเป้าหมายความห่างในอนาคต ตามระยะเวลาที่กำหนด เป็น เดือน ปี
3.การบูรณาการ (Integration)
– การสื่อสารผลการทำ Benchmarking ให้ผู้เกี่ยวข้องทราบ เช่น ผู้ถือหุ้น ผู้บริหาร ลูกค้า พนักงาน หรือฝ่ายที่เกี่ยวข้องต่างๆ
– การตั้งเป้าหมาย เป็นการระดมสมองของผู้เกี่ยวข้องในการพัฒนาส่วนที่ดำเนินการนั้น ให้สัมฤทธิ์ผล
4.การนำไปปฏิบัติ (Imprementation)
– การจัดทำแผนดำเนินการ การทำตารางคุมการปฏิบัติ ผู้รับผิดชอบ
– การนำแผนสู่การปฏิบัติ เป็นขั้นการทำงาน ที่คอยควบคุมให้เป็นตามแผน
– การสอบทวนผลกับผู้ที่ดีที่สุด/ ผู้ที่เราเปรียบเทียบ โดยการเปรียบเทียบต่อเนื่องและตั้งบรรทัดฐานในการพัฒนาต่อไป
บทความน่าอ่านเพิ่มเติม
Hello world!
Welcome to WordPress. This is your first post. Edit or delete it, then start blogging!
![]()


































