5 การวางแผนกลยุทธ์ตลาดยุคใหม่ เพื่อขับเคลื่อนความสำเร็จ เป็น การวางแผนการตลาด ที่มีความทันสมัย เพื่อให้พนักงานการตลาดมีแนวทางในการวางแผนการตลาด จนสามารถนำมาพัฒนาเป็นความสำเร็จให้องค์กรที่ยั่งยืน

5 การวางแผนกลยุทธ์ตลาดยุคใหม่ เพื่อขับเคลื่อนความสำเร็จ

เขียนโดย วิทยากรการตลาด ดร.สุรชัย โฆษิตบวรชัย

ในยุคที่ตลาดเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและพฤติกรรมผู้บริโภคซับซ้อนขึ้น “กลยุทธ์” ไม่ใช่แค่เรื่องของผู้บริหาร แต่คือสิ่งที่ทุกคนในองค์กรต้องเข้าใจและนำไปปฏิบัติจริง เพราะการแข่งขันไม่ได้รอใคร และการปรับตัวให้เร็วคือกุญแจสู่ความสำเร็จ เพราะต่อจากนี้การตลาดจะไม่เหมือนเดิม เพราะถ้าใครทำกลยุทธ์การตลาดแบบเดิม ๆ เท่ากับว่าคุณกำลังล้าหลังกว่าคู่แข่งขันไปมาก การตลาดยุคนี้ มีทั้งโอกาสแบบแรง ๆ และ อุปสรรคแบบหนัก ๆ คำว่า โอกาสแบบแรง ๆ หมายความว่า นักการตลาดหรือผู้ประกอบการ ใช้โซเชียลเพื่อปั้นแบนให้ตนเองโด่งดัง ดึงลูกค้าเข้าร้านเป็นอย่างมาก ค่าใช้จ่ายประหยัดกว่ามาก และผลลัพธ์ตรงกลุ่มเป้าหมายมากกว่า หรือ การเป็นอุปสรรคแบบหนัก ๆ คงหนีไม่พ้นคนที่ทำการตลาดแบบเดิม ๆ มองการตลาดเพียง แค่ส่วนประสมการณ์การตลาดแบบเดิม ๆ ทำทุกอย่างไม่แตกต่างจากเดิมมากนัก เท่ากับ คุณกำลังเจอปัญหาแบบหนัก ๆ นั่นเอง

ลองสังเกต ว่าวันนี้ มีอะไรเปลี่ยนไปกับ Google ที่เราเคยใช้เพื่อค้นหาข้อมูลมานานนับ 10 ปี จนคนคุ้นเคย และ Google ก็กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตไป แต่ในที่สุด โลกเปลี่ยนทุกอย่างเปลี่ยน เพราะ หลักจาก ChatGPT เป็น AI ที่มีการค้นหาที่เก่งกว่า ใช้งานง่าย ให้ผลลัพธ์ที่รวดเร็ว ทำให้ Google ต้องปรับ การแผนกลยุทธ์การตลาด ของตนเองที่จะต้องนำ AI เป็นเครื่องมือสำคัญในการค้นหาข้อมูลสำหรับผู้บริโภค

“5 การวางแผนกลยุทธ์ตลาดยุคใหม่ เพื่อขับเคลื่อนความสำเร็จ” ที่จะช่วยให้ธุรกิจของคุณไม่เพียงแค่ “อยู่รอด” แต่ “เติบโตได้อย่างยั่งยืน”
1. เข้าใจผู้บริโภคเชิงลึก (Deep Consumer Insight) เพราะข้อมูลคือพลัง ใครเข้าใจลูกค้าได้จริง จะได้เปรียบเสมอ
2. การสร้างความแตกต่างที่ชัดเจน (Differentiation) ทำไมลูกค้าต้องเลือกเรา? คำตอบนี้คือหัวใจสำคัญ
3. การตลาดที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล (Data-Driven Marketing) ตัดสินใจบนข้อเท็จจริง ไม่ใช่แค่ความรู้สึก
4. Omni-Channel Experience เชื่อมโยงทุกช่องทางให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ราบรื่น
5. ความคล่องตัว (Agility) เพราะโลกธุรกิจเปลี่ยนทุกวัน กลยุทธ์ต้องยืดหยุ่นและปรับได้ทันที

สำหรับแนวทาง ที่นักการตลาดยุคใหม่ต้องรู้และต้องทำ เพื่อให้แบรนด์ก้าวนำคู่แข่ง และตอบสนองลูกค้าได้อย่างตรงใจ ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้บริหาร นักขาย นักการตลาด หรือเจ้าของธุรกิจ อย่าพลาดโอกาสที่จะเข้าใจกลยุทธ์เหล่านี้ เพราะ “กลยุทธ์ที่ดี” คือเครื่องยนต์ขับเคลื่อนความสำเร็จในอนาคต!

พร้อมหรือยัง? ถึงเวลาเรียนรู้และปรับตัวก่อนใคร!

แนวโน้มของนักการวางแผนกลยุทธ์การตลาดยุคใหม่ ต้องมีการเปลี่ยนแปลงตนเอง ซึ่งบางครั้ง เปลี่ยนไป โดยไม่รู้ตัว นี่ จากการสำรวจว่า AI จะมาเปลี่ยนแปลงขั้นตอนการทำงานประจำวันของนักการตลาด ได้อย่างไร ครอบคลุมถึงอนาคตของข้อมูลเชิงลึกที่ขับเคลื่อนด้วย AI การสร้างคอนเทนต์ การจัดการวิกฤต และอื่นๆ อีกมากมาย

ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป นักการตลาดจะไม่มองว่า AI เป็นเพียงเครื่องมือที่แยกจากกันอีกต่อไป แต่ AI จะอยู่ตรงนั้น ผสานรวมเข้ากับทุกแง่มุมของงานการตลาด AI จะทำงานอยู่เบื้องหลังเหมือนกระแสไฟฟ้าที่ขับเคลื่อนเครื่องมือกลยุทธ์การตลาดของพวกเขา เป็นตัวช่วยสำคัญในการ ปรับ เปลี่ยน และสร้างใหม่ ทำให้ กลยุทธ์การตลาดต่อจากนี้ไปจะมีสีสรรค์เพิ่มมากขึ้น แต่นี่ก็คือ 5 แนวทางการนำ AI เพื่อใช้ในการตอบสนองต่อกลยุทธ์การตลาดยุคใหม่

1. การค้นหาและสร้าง ลูกค้าเป้าหมายการตลาดที่แม่นยำ แบบอัตโนมัติด้วย AI:

ในอดีตเป็นเรื่องน่าปวดหัว ที่จะค้นหากลุ่มลูกค้า ว่าใครคือคนที่มีโอกาสในการสนใจสิ่งเราขาย หรือ ที่เราทำการตลาด ซึ่งมีเอเจนซี่บางบริษัง ลงทุนจับสัญญาโทรทัศน์เพื่อพยายามค้นหาว่าโทรทัศน์ช่องไหนได้รับความนิยมมากว่า ใช้เวลานาน ในการจับสัญญาณ บางครั้งเป็นเดือน เป็นปี นำมาหาค่าเฉลี่ย เพื่อคิดค่าโฆษณา กับลูกค้าที่ต้องการโฆษณา วิเคราะห์กันแบบนี้มาช้านาน ในขณะนั้น นักวางแผนกลยุทธ์การตลาดก็ต้องเชื่อ ทั้ง ๆ ที่ผลลัพธ์ก็ตอบไม่ได้ชัดเจน ว่า จำนวนเป้าหมายเป็นเจริงหรือไม่ เพราะยังไม่มีวิธีใดที่จะชัดเจนกว่า ดีกว่า แต่ในปัจจบันเป็นยุคของ เครื่องมือ AI จะวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมหาศาลโดยอัตโนมัติ ตั้งแต่ประวัติการเรียกดูไปจนถึงพฤติกรรมการซื้อ และสร้างกลุ่มเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจงอย่างยิ่ง

นักการตลาดเสนอไอเดียแคมเปญที่กว้างขวาง และภายในไม่กี่วินาที AI ก็สามารถระบุและแบ่งกลุ่มกลุ่มเป้าหมายตามความสนใจและโอกาสที่จะเปลี่ยนกลุ่มเป้าหมายเป็นลูกค้าได้ กลุ่มคนเหล่านี้ไม่ได้เป็นเพียงกลุ่มคนที่มีความคล้ายคลึงกันเท่านั้น แต่เป็นกลุ่มบุคคลที่ได้รับการกำหนดเป้าหมายด้วยข้อความส่วนบุคคลที่ปรับแต่งให้เหมาะกับความต้องการส่วนบุคคล เป็นการกำหนดกลุ่มเป้าหมายเชิงลึก

ความแม่นยำ ที่ใช้ AI อธิบายได้ว่าแคมเปญต่างๆ สามารถตรงเป้าหมายและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ยกตัว อย่างเช่น แทนที่จะสร้างแคมเปญโฆษณาหลายเวอร์ชัน AI จะปรับเปลี่ยนและแสดงโฆษณาแบบไดนามิกตามพฤติกรรมลูกค้า และเป็นข้อมูลแบบเรียลไทม์โดยไม่จำเป็นต้องมีนักการตลาดมาคอยดูแลตลอดเวลา

2. จุดจบของการค้นหา Search Engine แบบเดิม

การเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัด ที่ต้องปรับ ก่อนที่จะไม่รอด คือ การที่ Google มีผลการค้นหาที่ขับเคลื่อนด้วย AI มากขึ้นในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา การพิมพ์คีย์เวิร์ดและเลื่อนดูผลลัพธ์ จะกลายเป็นอดีต ลองนึกภาพว่าคุณกำลังถามผู้ช่วยดิจิทัลของคุณว่า “ฉันจะทำการตลาดผลิตภัณฑ์ใหม่ในประเทศไทยให้ดีที่สุดได้อย่างไร” แล้วได้รับกลยุทธ์ที่ละเอียดและปรับแต่งเฉพาะบุคคลภายในไม่กี่วินาที เสิร์ชเอ็นจิ้นที่ขับเคลื่อนด้วย AI เช่น SearchGPT ไม่เพียงแต่แสดงลิงก์เท่านั้น แต่ยังวิเคราะห์คำถามของคุณ ทำความเข้าใจเจตนาของคุณ และให้คำตอบที่ให้ความรู้สึกเหมือนคุณกำลังปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญการตลาดอย่างแท้จริง

3. การสร้างและจัดรูปแบบเนื้อหามุ่งเน้นกลยุทธ์และความคิดสร้างสรรค์

จากนี้ไปเป็นยุคของการแข่งขัน ทางด้านคอนเทนต์ เนื้อหา ที่จะตอบโจทย์ผู้บริภคได้อย่างไร เป็นยุคที่ไม่ต้องกังวลว่า คอนแทคต์จะมีคนเข้าถึงหรือไม่ เพราะคอนเทนต์แต่ละแบบจะตอบโจทย์การแบ่งตลาด หรือ Segmentation ที่แตกต่างกันออกไป แต่การแข่งขันการตลาดจะเป็นว่าใคร สามารถสร้างเนื้อหาการตลาดได้อย่างรวดเร็ว ตอบโจทนย์ผู้บริโภคได้มากที่สุด ซึ่งในอดีตเปฌ็นไปได้ยากมากในการคิดเนื้อหาเช่นนี้ แต่ในทุกวันนี้ การสร้างเนื้อหา ให้น่าสนใจกลายเป็นความจริง ที่ทำได้ง่ายเพิ่มมากขึ้น เพราะ AI กำลังยกระดับ ให้เป็นเทพ คอนเทนต์ตัวจริง สำหรับนักงานแผนกลยุทธ์การตลาด เช่น การเขียนบล็อกโพสต์เพียงโพสต์เดียว ในอดีตใช้เวลานานมากในการคิด พิมพ์ แต่ในปัจจุบัน การสร้างคอนเทนต์ไม่ใช่เรื่องที่ต้องใช้เวลาอีกต่อไป เพราะสามารถสร้างได้ภายในไม่กี่นาที และยิ่งไปกว่านั้น เครื่องมือ AI ยังสามารถเปลี่ยนเนื้อหานั้นให้กลายเป็นแคมเปญการตลาดเต็มรูปแบบ ซึ่งประกอบด้วยพอดแคสต์ วิดีโอซีรีส์ อินโฟกราฟิก โพสต์บนโซเชียลมีเดีย และแม้แต่ประสบการณ์ AR แบบอินเทอร์แอคทีฟ ซึ่งทั้งหมดนี้ปรับแต่งให้เหมาะกับความต้องการเฉพาะของแต่ละแพลตฟอร์มอีกด้วย มัน ว๊าวมากสำหรับนักการตลาดยุคใหม่

4. การปรับแต่งโฆษณาให้เข้ากับพฤติกรรมของผู้ใช้แต่ละคน

ในอดีตเป็นเรื่องยากสำหรับนักการตลาดที่จะติดตามพฤติกรรมผู้บริโภค ว่าเป็นเช่นไร มีความชอบ ไม่ชอบ หรือ กำลังให้ความสนใจในเรื่องอะไร พฤติกรรมผู้บริโภคจะมีการเปลี่ยนแปลงไปมาก และ แบ่งกลุ่มย่อย ออกไป แต่ต่อจากนี้ไป การติดตามการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคทำได้ง่ายขึ้น เป็นแบบไดนามิกและปรับเปลี่ยนไปตามบริบทของผู้ชมอย่างต่อเนื่อง เช่นผู้บริโภคสนใจและหาข้อมูลซื้อรองเท้าออนไลน์ ขณะที่เขากำลังดูสินค้า AI จะรับรู้ว่าเขาใช้เวลาดูรองเท้ากีฬาแบรนด์นี้มากกว่ารองเท้าอีกแบรนด์ ทันทีที่โฆษณาที่เขาเห็นบนแพลตฟอร์มต่างๆ จะถูกปรับแต่งให้แสดงรองเท้าแบรนด์แรกในทันที พร้อมข้อความที่ปรับให้เข้ากับพฤติกรรมของเขา เช่น ส่วนลดสำหรับแบรนด์ที่เขากำลังพิจารณา

โฆษณาแบบไดนามิกเหล่านี้ไม่ได้เป็นเพียงการกำหนดเป้าหมายลูกค้าเท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างประสบการณ์ผู้ใช้ที่ทำให้รู้สึกง่าย เข้าถึงสะดวก เช่น หากผู้บริโภคเข้าชมเว็บไซต์ฟิตเนส โฆษณาอาจเน้นคุณสมบัติด้านประสิทธิภาพของรองเท้ากีฬา ในขณะที่บล็อกแฟชั่นอาจเน้นที่สไตล์และชื่อเสียงของแบรนด์

5.มัลติมีเดีย ครบวงจร การออกแบบภาพ กราฟิก คลิป

ในอดีต การสร้าง มัลติมีเดียเพื่อเป็นองค์ประกอบหลักในการโฆษณา เป็นเรื่องที่ยากมาก และ ก็เข้าถึงยาก เพราะจะต้องใช้คนที่เรียนจบมาทางด้านนี้เท่านั้นที่จะทำรูปภาพออกมาได้สวยงาม หรือ คนที่ต้องจบช่างภาพถึงจะถ่ายภาพได้ดีกว่าคนอื่น หรือการตัดต่อวีดีโอ ที่ทำได้ยากมาก แต่ในปัจจุบัน AI เข้ามาเป็นตัวช่วยสำคัญทำให้การผลิตสื่อการตลาดต่าง ๆ เป็นเรื่องที่ง่ายมากขึ้น  มัลติมีเดียจะไม่ใช่แค่เครื่องมือสำหรับนักออกแบบอีกต่อไป แต่เป็นพันธมิตรด้านความคิดสร้างสรรค์ เพราะ AI ที่สามารถวิเคราะห์ความต้องการของแบรนด์และสร้างสื่อการตลาดที่สมบูรณ์แบบได้ทันที ตั้งแต่โลโก้ไปจนถึงเนื้อหาวิดีโอ โดยทั้งหมดสอดคล้องกับอัตลักษณ์ของแบรนด์ AI นี้ไม่ได้เข้ามาแทนที่ทีมครีเอทีฟ แต่จะช่วยเสริมทักษะของพวกเขาและช่วยให้สามารถทำซ้ำได้เร็วขึ้นและสร้างสรรค์ไอเดียใหม่ๆ ได้มากขึ้น

เช่น แบรนด์ที่ต้องการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่สามารถใช้ AI เพื่อสร้างแนวคิดภาพที่หลากหลายได้ภายในไม่กี่นาที ซึ่งทีมกลยุทธ์การตลาดยังสามารถออกแบบสามารถปรับปรุงและปรับแต่งให้เหมาะกับแต่ละบุคคลได้ ความร่วมมือระหว่าง AI และทีมครีเอทีฟนี้ช่วยขยายขอบเขต การทำงานการตลาด ที่มีความเป็นไปได้ ส่งผลให้แคมเปญการตลาดโดดเด่นสะดุดตาและน่าจดจำยิ่งขึ้น โดดเด่นในตลาดที่มีการแข่งขันสูง เพราะ

AI จะคาดการณ์ความต้องการของลูกค้าและนำเสนอโซลูชันที่เกี่ยวข้องในเชิงรุก เป็นการสร้างแบบจำลองได้อย่างรวดเร็ว

AI จะจัดการและเพิ่มประสิทธิภาพการโต้ตอบกับลูกค้าในหลากหลายช่องทางเพื่อประสบการณ์ที่ราบรื่น เป็นการประสานงานแบบ Omnichannel อัตโนมัติ

AI จะช่วยในการสร้างและปรับแต่งเนื้อหา โดยมุ่งเน้นที่ทีมการตลาดในด้านกลยุทธ์และความคิดสร้างสรรค์

การสร้างและปรับแต่งเนื้อหาคุณภาพ ครงกับพฤติกรรมลูกค้า ในเวลาอันสั้น

AI การปรับเวลา โต้ตอบลูกค้า โดยอ้างอิงจากการวิเคราะห์พฤติกรรมผู้ใช้แต่ละราย เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพเวลาในการทำงานการตลาด

บทบาทของนักการวางแผนกลยุทธ์การตลาดจะเปลี่ยนจากการดำเนินการไปสู่การกำกับดูแลเชิงกลยุทธ์ ช่วยให้สามารถมุ่งเน้นไปที่งานคุณภาพที่มีระดับสูงขึ้น เช่น การวางตำแหน่งแบรนด์และทิศทางการสร้างสรรค์ ในขณะที่ AI จะดูแลรายละเอียดทางเทคนิค การปฏิบัติใช้ การคิดสร้างสรรค์

โลกธุรกิจวันนี้เปลี่ยนเร็วเกินกว่าจะยึดติดกับวิธีเดิม  “5 การวางแผนกลยุทธ์ตลาดยุคใหม่ เพื่อขับเคลื่อนความสำเร็จ” ไม่ใช่แค่แนวคิด แต่คือ “แผนที่” ที่จะพาธุรกิจของคุณไปข้างหน้า การเข้าใจผู้บริโภคเชิงลึก การสร้างความแตกต่างที่แท้จริง การใช้ข้อมูลตัดสินใจ การสร้างประสบการณ์แบบ Omni-Channel และการทำงานอย่างคล่องตัว คือทักษะที่ต้องลงมือทำทันที

เพราะในโลกที่เทคโนโลยีและผู้บริโภคขับเคลื่อนทุกสิ่ง ไม่มีพื้นที่สำหรับคนที่หยุดนิ่ง นักการตลาดต้องถามตัวเองว่า “วันนี้เรายังทำการตลาดเหมือนเมื่อวานอยู่หรือไม่?” ถึงเวลาลุกขึ้นคิดใหม่ ทำใหม่ และสร้างความได้เปรียบก่อนคู่แข่ง เพื่อให้แบรนด์ของคุณไม่เพียงแค่ตามทัน แต่ก้าวนำไปสู่ความสำเร็จอย่างยั่งยืน! คุณพร้อมจะเปลี่ยนแปลงแล้วหรือยัง?